โอไมครอน 'CH.1.1' ระบาดหลายประเทศ ไทยพบแล้ว 9 คน จ่อแทนที่ BA.5 และ BA.2.75

05 ธันวาคม 2565, 06:25น.


          สถานการณ์โควิด-19 ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics รายงานข้อมูลขององค์การอนามัยโลก(WHO) ที่นพ. เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO และ ดร.มาเรีย ฟาน เคอร์โคฟ หัวหน้าด้านเทคนิคของ WHO และหัวหน้าแผนกโรคอุบัติใหม่และโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนในโครงการภาวะฉุกเฉินทางสุขภาพของ WHO แถลงส่วนหนึ่งว่า





          ข้อมูลจากฐานข้อมูลรหัสพันธุกรรมโควิดโลก “กิสเสด” พบโอไมครอน CH.1.1 ในหลายประเทศโดยเริ่มต้นการระบาดมาจากประเทศออสเตรีย



• ออสเตรีย จำนวน 150 ราย คิดเป็น 0.209%



• อังกฤษ จำนวน 137 ราย คิดเป็น 0.088%



• ออสเตรเลีย จำนวน 129 ราย คิดเป็น 0.246%



• สหรัฐฯ 74 ราย คิดเป็น 0.011%



• เดนมาร์ก จำนวน 54ราย คิดเป็น 0.060%



• ฮ่องกง จำนวน 27 ราย คิดเป็น 0.516%



• ญี่ปุ่น จำนวน 26 ราย คิดเป็น 0.017%



• เกาหลีใต้ จำนวน 20 ราย คิดเป็น 0.051%



• เนเธอร์แลนด์ จำนวน 17 ราย คิดเป็น 0.070%



• อินเดีย จำนวน 16 ราย คิดเป็น 0.047%



• ลิกเตนสไตน์ จำนวน 13 ราย คิดเป็น 3.171%



• อิสราเอล จำนวน 11 ราย คิดเป็น 0.020%



• สิงคโปร์ จำนวน 10 ราย คิดเป็น 0.110%



• ไทย จำนวน 9 ราย คิดเป็น 0.188%







          โอไมครอน “CH.1.1” ซึ่งเป็นรุ่นลูกของ BA.2.75 เนื่องจาก ในประเทศไทย CH.1.1 มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage) เหนือกว่า BA.5 ประมาณ 135% และเหนือกว่า BA.2.75* ประมาณ 150% ทำให้มีแนวโน้มที่ CH.1.1 อาจระบาดมาแทนที่ BA.5 และ BA.2.75 ได้ ขณะนี้พบ“CH.1.1” ในไทยแล้ว 9 ราย



       







          WHO สรุปว่าปลายปีนี้ต่อปีหน้า 2566 ยังคงต้องตรวจ PCR และสุ่มถอดรหัสพันธุกรรมสายพันธุ์ใหม่ที่ทำให้เกิดโรคและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต (COVID genomic surveillance) อย่างเข้มข้น พร้อมกับการเรียนรู้ผลกระทบระยะยาวที่ประชาชนสัมผัสกับไวรัส SARS-CoV-2 อย่างต่อเนื่องมากว่า 3 ปีที่จะชัดเจนมากขึ้น รวมถึงผลกระทบของการติดเชื้อซ้ำแม้จะฉีดวัคซีนป้องกัน (breakthrough infection) ที่เรียกว่า " ไม่รุนแรง (mild)" รวมถึงประสิทธิภาพการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะวัคซีนสองสายพันธุ์ (bivalent vaccine)



 



#โควิด19



#WHO



CR:Center for Medical Genomics



 

ข่าวทั้งหมด

X