ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนวิพากษ์วิจารณ์การกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของรัสเซีย โดยสหภาพยุโรปและกลุ่มประเทศจี7 ว่าไม่มีความรุนแรงมากพอที่จะทำลายเศรษฐกิจรัสเซีย
การกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซียที่มีการขนส่งทางเรือที่กำหนดไว้ที่ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จะเริ่มบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้ (5 ธ.ค.) ส่วนการกำหนดเพดานราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมจะมีผลบังคับใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ มีเป้าหมายเพื่อลดรายได้ของรัสเซียที่จะนำไปจัดซื้ออาวุธทำสงครามในยูเครน ซึ่งประธานาธิบดียูเครนกล่าวว่า รัสเซียได้สร้างความสูญเสียครั้งใหญ่ให้กับทุกประเทศทั่วโลกด้วยการเจตนาทำให้ตลาดพลังงานไม่มีความมั่นคง จึงต้องมีเครื่องมือที่แข็งแกร่งกว่านี้ในการทำลายเศรษฐกิจรัสเซีย
ขณะเดียวกันรัสเซียก็ไม่ยอมรับการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบ นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า รัสเซียมีการเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้าแล้ว เพื่อลดผลกระทบด้วยการขายน้ำมันไปยังตลาดอื่น ๆ เช่นอินเดียและจีนซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ซื้อน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย นอกจากนี้ที่ผ่านมารัสเซียยังมีการประกาศหลายครั้งว่าจะไม่ขายน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมให้กับประเทศที่สนับสนุนการกำหนดเพดานราคา ทั้งเตือนว่าจะเป็นการสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อตลาดพลังงานและผลักดันราคาสินค้าให้สูงขึ้นไปอีก
ตั้งแต่เกิดสงครามในยูเครน ประเทศในสหภาพยุโรปพยายามลดการพึ่งพารัสเซีย โดยสหรัฐฯ ยุติการใช้น้ำมันดิบของรัสเซียแล้ว ในขณะที่สหราชอาณาจักรมีแผนที่จะยุติการใช้น้ำมันดิบรัสเซียภายในสิ้นปีนี้
เมื่อเดือนกันยายน กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมทั้ง 7 หรือจี7 ที่ประกอบไปด้วย สหรัฐฯ แคนาดา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป เสนอมาตรการจำกัดเพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซียที่มีการขนส่งทางเรือ เพื่อขัดขวางความสามารถของรัสเซียในการจัดหาเงินทุนทำสงครามในยูเครน ในแถลงการณ์ร่วมของกลุ่มจี7 สหภาพยุโรป และออสเตรเลีย ระบุว่า การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อ ไม่ให้รัสเซียได้รับประโยชน์จากการรุกรานยูเครน
..
#น้ำมันดิบรัสเซีย
#สหภาพยุโรป