ไอเอ็มเอฟและเอดีบี เตือนภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจจีนชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อเอเชีย

          นางคริสตาลิน่า จอร์เจียวา กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ กล่าวในที่ประชุมอาเซียน+3 ที่สิงคโปร์ในวันนี้ (2 ธ.ค.) ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและการที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัว คือความเสี่ยงที่สำคัญต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของเอเชีย จึงแนะนำให้ผู้กำหนดนโยบายสร้างแนวกันชนใหม่เพื่อป้องกันผลกระทบในอนาคต

          ส่วนนายมาซาสึกุ อะซาคาวา ประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย หรือเอดีบี ซึ่งเข้าร่วมการประชุมผ่านระบบสื่อสารออนไลน์ แนะนำให้ผู้กำหนดนโยบายของเอเชียมีความระมัดระวังการไหลออกของเงินทุนอย่างกะทันหัน เนื่องจากการที่สหรัฐฯ ขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง

          นางจอร์เจียวา กล่าวว่าเศรษฐกิจของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน เป็น "จุดสว่าง" ในระบบเศรษฐกิจโลก โดยคาดการณ์ว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 5 ในปีนี้แต่จะลดลงเล็กน้อยในปี 2566 ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนจากปัจจัยสงครามในยูเครน การเข้มงวดทางการเงินทั่วโลก เศรษฐกิจจีนชะลอตัว ที่สำคัญคืออัตราเงินเฟ้อ ซึ่งคาดว่าเอเชียจะมีอัตราเฉลี่ยที่ร้อยละ 4 น้อยกว่าในภูมิภาคอื่นๆของโลก กลายเป็นแรงกดดันในภูมิภาค จึงต้องมีการสร้างแนวกันชนขึ้นใหม่ เตรียมพร้อมที่จะใช้ชุดเครื่องมือนโยบายอย่างเต็มที่ โดยเตือนว่า การที่จีนใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่มีความเข้มงวดถ่วงน้ำหนักการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก เพราะการที่จีนลดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ ทำให้ห่วงโซ่อุปทานของผู้ผลิตทั่วโลกหยุดชะงัก ผลกระทบจากการชะลอตัวของจีนส่งผลกระทบรุนแรงต่อเอเชีย ซึ่งกิจกรรมโรงงานตกต่ำทั่วทั้งภูมิภาคในเดือนพฤศจิกายน

          ประเทศเกิดใหม่บางประเทศยังถูกบังคับให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับการที่เงินทุนไหลออก จากการที่สหรัฐฯขึ้นอัตราดอกเบี้ย กลายเป็นต้นทุนที่ทำร้ายเศรษฐกิจที่เปราะบาง

          อย่างไรก็ตาม ในการประชุม นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า เขาไม่เห็นความเสี่ยงที่สำคัญที่จะทำให้เอเชียเผชิญกับการสูญเสียความเชื่อมั่นอย่างกะทันหันหรือวิกฤตการเงินครั้งใหม่ แต่ก็เตือนว่าไม่ควรประมาท เนื่องจากบางประเทศลดนโยบายกันชน มีการออกแพ็คเกจการใช้จ่ายจำนวนมากเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ เขายกตัวอย่างความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในตลาดสหราชอาณาจักรเมื่อเร็วๆ นี้ หลังจากที่รัฐบาลชุดเดิมประกาศนโยบายการใช้จ่ายชุดใหญ่ และลดภาษี ซึ่งเขากล่าวว่าผู้กำหนดนโยบายของอาเซียนต้องมีความระมัดระวังต่อความเสี่ยงต่าง ๆ มีการสื่อสารที่ชัดเจน เพียงพอ และทันท่วงทีเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสน

...

#ไอเอ็มเอฟ

#เอดีบี

#เศรษฐกิจอาเซียน