การดำเนินคดีกลุ่มทุนจีนผิดกฎหมาย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ได้รายงานพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจะเป็นผู้รายงานนายกรัฐมนตรี โดยเรื่องนี้ นายกฯได้กำชับครั้งล่าสุดในที่ประชุมก.ตร.ว่าให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ยืนยันเราทำงานยึดหลักกฎหมายตรงไปตรงมาสาวถึงใครก็ว่าไปตามนั้น ถ้าไม่ถึงก็ต้องให้ความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีนี้ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่เพราะเราใช้กำลังเยอะมาก ทำให้ต้องใช้เวลาเยอะ เช่นกรณีวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ใช้เวลาทั้งวัน ค้น3-4 จุด ยึดทรัพย์ 4,000 กว่าล้านบาท ที่เป็นวัตถุทั้งบ้าน รถ เครื่องบิน และต้องนำทรัพย์ที่ยึดมาได้มาโยงเส้นทางการเงิน และยังต้องไล่ต่อว่ายังมีเงินสดอีกหรือไม่แล้วอยู่ที่ไหน
โดยพบว่า ขณะนี้ กลุ่มทุนผิดกฎหมายในเมืองไทยหลบหนีออกไปมากแล้ว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กลุ่มเหล่านี้หลบหนีจากจีนมาอยู่กัมพูชา เมื่อถูกกวาดล้างหนักก็หนีมาอยู่ไทยและลาว เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ได้คุยกับผบ.ตร.สปป.ลาว เมื่อเราจับมือกันแบบนี้คนสองสัญชาติก็ต้องไม่มีแผ่นดินอยู่ ไปอยู่ที่อื่น วันนี้กลุ่มคนที่อยู่แบบผิดกฎหมายที่ไม่ใช่กลุ่มทุนจีนที่มีปัญหา เขาก็หนีไปเป็นร้อยคนแล้ว เพราะเขาก็กลัวจึงออกไปก่อนดีกว่า แต่หลังจากนี้เราต้องเข้มงวดตั้งแต่กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) และการให้วีซ่า เช่นการจับกุม นายโทนี่ หรือนายเฉิน จ้าวฮุ้ย ที่ถือวีซ่าธุรกิจ ก็ต้องตรวจสอบว่าออกได้อย่างไร ถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกก็ต้องเพิกถอน หากใครเกี่ยวข้องกับการให้วีซ่าที่ไม่ถูกกฎหมายต้องถูกดำเนินคดีหมด เช่นวีซ่านักเรียนที่ให้กับคนอายุ 57 ปี แบบนี้ออกมาได้อย่างไร ต้องถูกดำเนินคดีแน่ไม่ปล่อยไว้ เพราะบุคคลเหล่านี้ไม่ได้เข้ามาเพื่อลงทุน แต่มาก่ออาชญากรรม
เมื่อถามว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น มีการเชื่อมโยงนักการเมืองหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ยังไม่พบการเชื่อมโยง ตอนนี้เรารวบรวมพยานหลักฐานและมาวิเคราะห์ ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) หากถึงใครก็ว่าไปตามนั้น ซึ่งปัจจุบันการสืบสวนถือว่าไปได้ประมาณ 90% แล้ว แต่ต้องทำอย่างรอบคอบเพราะบุคคลนี้มีทนายความ มีนักกฎหมายที่เก่ง มีเงินเยอะ เรากำลังสู้กับคนมีฐานะการเงินที่สูง จึงต้องทำอย่างรอบคอบ แต่ไม่ได้หมายความเราจะกลัว วันนี้เราต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างรวดเร็วและและเป็นธรรม
เมื่อถามว่า ที่ระบุว่ากลุ่มทุนจีนมีทั้งอำนาจและเงิน จะไม่เกิดมวยล้มใช่หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า" ไม่มีๆถ้าผมทำ ไม่มีมวยล้มแน่ ถ้าเราไม่มีผลประโยชน์เราตัดสินใจง่าย เรื่องนี้ผมทำสบายใจมาก เพราะทำอย่างตรงไปตรงมา แต่อาจจะเหนื่อย เพราะเอกสารเยอะ เนื้อหาเยอะเราก็ต้องกรองให้ดีจะออกหมายจับหมายค้นก็ต้องอธิบายศาล แม้เป็นคดีที่ต้องใช้คนเยอะ แต่เราเป็นตำรวจก็ต้องทำ เมื่อไม่มีผลประโยชน์มันตัดใจง่าย รับเรื่องนี้ไม่มีมวยล้ม
#ทุนจีนสีเทา