นักท่องเที่ยวจำนวนมาก ชมลาวาจากภูเขาไฟฮาวาย

          ความคืบหน้ากรณีที่ภูเขาไฟเมานา โลอา (Mauna Loa) ในฮาวาย ปะทุขึ้นในคืนวันอาทิตย์ (27 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากที่สงบมานาน 38 ปี ซึ่งสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ หรือยูเอสจีเอส เปิดเผยว่า การระเบิดเกิดขึ้นภายในอุทยานแห่งชาติภูเขาไฟฮาวาย (Hawaii Volcanoes National Park) ทำให้มีเถ้าถ่าน กำมะถันปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างและมีลาวาไหลหลากจากภูเขาไฟ

          อย่างไรก็ตาม ทางหลวงสายหลักที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองต่าง ๆ ของบิ๊กไอส์แลนด์ กลายเป็นจุดชมวิว มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปเที่ยวชมภูเขาไฟ แม้จะมีคำเตือนให้มีความระมัดระวังทั้งการปะทุของภูเขาไฟ และอาจมีลาวาจากภูเขาไฟไหลหลากลงมาอีก นักท่องเที่ยวหลายคนยอมรับว่า พวกเขารีบเดินทางมาก่อนที่ทางการฮาวายจะปิดถนน

          โดยในขณะนี้ลาวาค่อยๆ ไหลหลากลงมาตามทางลาดชันและอยู่ห่างจากทางหลวงที่เรียกว่าถนนแซดเดิลประมาณ 10 กิโลเมตร ยังไม่แน่ชัดว่าจะไหลผ่านถนนเมื่อใด โดยในเบื้องต้น นายเคน ฮอน นักวิทยาศาสตร์ที่ดูแลหอสังเกตการณ์ภูเขาไฟฮาวาย คาดว่า อย่างเร็วที่สุดคือ 2 วันลาวาจะมาถึงถนน แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะใช้เวลานานกว่านั้น เนื่องจากลาวามีการไหลแผ่กระจายออกไป ทำให้ไหลหลากได้ช้าลง

           ภูเขาไฟ เมานา โลอา ปะทุครั้งสุดท้ายในปี 2527 การปะทุในปัจจุบันนับเป็นครั้งที่ 34 นับตั้งแต่มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรเริ่มขึ้นในปี 2386 ขณะที่ภูเขาไฟไคลัว (Kilauea) ที่อยู่ใกล้กัน มีขนาดเล็กกว่าและมีการปะทุตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 ผู้มาเยือนอุทยานแห่งชาติในเวลานี้จึงได้ชมการปะทุของภูเขาไฟ 2 แห่งพร้อมกัน

          ทางการฮาวายออกประกาศฉุกเฉิน เพื่อเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย และอาจจำกัดการเดินทางมาพื้นที่ได้ตามความจำเป็น โดยในคืนวันจันทร์ (28 พ.ย.) ลาวาไหลหลากข้ามถนนทางเข้าหอดูดาวเมานาโลอา ทำให้ต้องตัดกระแสไฟไปยังสถานที่ซึ่งเป็นสถานีวัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เก็บกักความร้อนไว้ในชั้นบรรยากาศ โดยรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ กำลังพิจารณาหาสถานที่สำรองชั่วคราวบนเกาะฮาวาย และส่งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไปยังหอดูดาวเพื่อให้สามารถกลับมาทำงานได้อีกครั้ง และนักวิทยาศาสตร์กำลังพยายามตรวจวัดก๊าซที่ปล่อยออกมาจากการปะทุ

....

#ภูเขาไฟฮาวาย