การประชุมสหภาพยุโรป (EU) เพื่อหาฉันทามติเกี่ยวกับการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย ยังตกลงกันไม่ได้ เนื่องจากสมาชิก EU ยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมาก เนื่องจาก มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้รัสเซียมีรายได้ลดลงจากการจำหน่ายน้ำมันที่จะนำไปสนับสนุนการทำสงครามในยูเครน แต่ก็จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลกจนทำให้เกิดภาวะขาดแคลน
กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7ประเทศ หรือ G7 เสนอให้มีการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียในกรอบ 65-70 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU เสนอเพดานที่ระดับ 65 ดอลลาร์ แต่โปแลนด์ เอสโทเนีย และลิธัวเนีย ต่างก็มองว่ากรอบราคาดังกล่าวอยู่ในระดับสูงเกินไป โดยโปแลนด์ต้องการกำหนดราคาที่ระดับ 30 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยระบุว่า กรอบ 65-70 ดอลลาร์/บาร์เรล เอื้อประโยชน์ต่อรัสเซียมากเกินไป เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตเพียง 20 ดอลลาร์/บาร์เรล และให้มีการนำประเด็นการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียพ่วงเข้ากับมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่
ส่วนไซปรัส กรีซ และมอลตา มองว่า กรอบ 65-70 ดอลลาร์/บาร์เรลอยู่ในระดับต่ำเกินไป และต้องการให้มีการจ่ายเงินชดเชยภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดังกล่าว รวมทั้งขอให้มีการกำหนดระยะเวลาผ่อนผันสำหรับการปรับตัวรองรับมาตรการดังกล่าว G7 รวมทั้ง EU และออสเตรเลียมีกำหนดบังคับใช้เพดานราคาน้ำมันรัสเซียในวันที่ 5 ธ.ค. โดยจะมีผลบังคับใช้ต่อน้ำมันรัสเซียที่มีการขนส่งผ่านทางเรือบรรทุกน้ำมัน แต่ไม่รวมน้ำมันที่มีการขนส่งผ่านท่อส่งน้ำมัน
การกำหนดเพดานราคาน้ำมันดังกล่าวถือเป็นมาตรการลงโทษต่อการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนในวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งเมื่อมีการประกาศใช้จะทำให้บริษัทเดินเรือ บริษัทประกันวินาศภัย และบริษัทประกันภัยต่อ ไม่สามารถให้บริการใดๆที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งคาร์โกน้ำมันรัสเซียที่มีราคาสูงกว่าเพดานที่ G7 และพันธมิตรกำหนดไว้ หาก EU ไม่สามารถบรรลุฉันทามติเกี่ยวกับการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย ก็จะส่งผลให้ EU ต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้นด้วยการประกาศระงับการนำเข้าน้ำมันดิบทั้งหมดจากรัสเซียเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.และระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมทั้งหมดจากรัสเซียตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.2566 ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตลาดน้ำมันโลก
ด้านราคาน้ำมันในตลาดโลก งวดส่งมอบเดือนม.ค. 2566 เวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์ค เมื่อเวลา 21.13น. อยู่ที่ 78.46 เหรียญต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.22 เหรียญ ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือตลาดลอนดอน อยู่ที่ 84.90 เหรียญต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.71 เหรียญ
#วิกฤตพลังงาน
#รัสเซีย
#EUและG7