บีบีซี รายงานว่า นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวหาผู้ใช้สื่อออนไลน์จีนกลุ่มหนึ่งคิดร้ายต่อประเทศเชื่อมโยงเหตุไฟไหม้อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองอุรุมชี มณฑลซินเจียงทางภาคตะวันตกของประเทศเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ว่า มาตรการล็อกดาวน์ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้คนไม่สามารถหลบหนีออกจากอาคารที่ถูกไฟไหม้ ทำให้ชาวบ้านเสียชีวิต 10 ราย
ที่ผ่านมา ผู้ประท้วงตำหนิกฎระเบียบการล็อกดาวน์ว่า เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของทีมกู้ภัยในเมืองอุรุมชี แต่ทางการจีนปฏิเสธเรื่องนี้ ชี้แจงว่า ชาวบ้านในบริเวณเกิดเหตุที่เกิดเหตุไฟไหม้ไม่ได้ถูกขังล็อกไว้ในบ้าน หรือในอาคาร พวกเขาสามารถจะเข้าออกจากบ้านเรือนหรืออาคารพักอาศัยได้ตามปกติ
แต่การส่งต่อคลิปวิดีโอเกี่ยวกับเรื่องนี้ทางสื่อออนไลน์ของจีน ทำให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตของจีนไม่พอใจ ทำให้ชาวบ้านออกมาประท้วงในเมืองอุรุมชี ก่อนลุกลามไปยังเมืองอื่นๆ เช่น นครเซี่ยงไฮ้ เมืองกวางเจา เมืองอู่ฮั่นและเมืองหนานจิง
ปัจจุบัน จีนยังคงใช้นโยบายลดโรคโควิด-19 เหลือ 0 เช่นการล็อกดาวน์ศูนย์กลางการแพร่ระบาดทุกแห่งที่พบการระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 ต่างจากประเทศอื่นๆทั่วโลกที่ใช้นโยบายให้ประชาชนปรับตัวอยู่กับโรคโควิด-19 โดยรัฐบาลระบุว่านโยบายนี้มุ่งรักษาชีวิตของประชาชนให้ปลอดภัย นอกจากนี้ การไม่ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเคร่งครัดจะทำให้กลุ่มอ่อนแอ เช่น ผู้สูงอายุ อยู่ในความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยหรือเสียชีวิต
มาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดช่วยทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตในจีนอยู่ในอัตราที่ต่ำนับแต่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดเมื่อ 3 ปีก่อน โดยตัวเลขผู้เสียชีวิต 5,233 ราย หรือ เฉลี่ยมีคนจีนเสียชีวิตเฉลี่ย 3 รายต่อประชากรหนึ่งล้านคน เทียบกับสัดส่วนการเสียชีวิต 3,000 รายต่อประชากรหนึ่งล้านคนในสหรัฐฯ และเสียชีวิต 2,400 ราย ต่อประชากรหนึ่งล้านคนในอังกฤษ
#จีน
#การประท้วงนโยบายโควิด