ซีดีซี ย้ำให้ผู้สูงอายุรับวัคซีนเข็มกระตุ้นรุ่นใหม่ ป้องกันการเจ็บป่วยหนักจากโควิด-19

          ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐฯ หรือซีดีซี เผยแพร่ผลการวิเคราะห์ข้อมูลกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 360,000 คนที่มีระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง ซึ่งเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดตั้งแต่เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีโอไมครอน BA.5 โดดเด่น ในกลุ่มตัวอย่างมีทั้งผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นที่เป็นวัคซีนรุ่นเดิมและไบวาเลนต์ หรือที่เรียกว่าวัคซีนโควิดเจน2 รวมถึงคนที่ไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น และไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเลย

          ซีดีซี ระบุว่า ผู้สูงอายุและบุคคลกลุ่มเสี่ยง ผู้มีปัญหาสุขภาพเรื้อรังควรได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นวัคซีนรุ่นใหม่ชนิดไบวาเลนต์

          วัคซีนป้องกันโควิดมีประสิทธิภาพในการป้องกันเจ็บป่วยที่ไม่รุนแรงในเกือบทุกกลุ่มอายุ เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน แต่หากได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นที่เป็นไบวาเลนต์ จะมีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นสูงกว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนรุ่นเดิม

          เมื่อปลายเดือนสิงหาคม สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือเอฟดีเอ สหรัฐฯ เห็นชอบให้ใช้วัคซีนไบวาเลนต์เป็นเข็มกระตุ้น เพื่อเพิ่มระดับการป้องกัน โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า รายงานประสิทธิภาพวัคซีนรุ่นเดิมในช่วงปลายปี 2563 และต้นปี 2564 ที่ชี้ว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพมากกว่าร้อยละ 90 แต่ในสถานการณ์จริงประสิทธิภาพของวัคซีนไม่ได้เป็นเช่นนั้น

          ดร.จอห์น มัวร์ ศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยาและภูมิคุ้มกันวิทยาจากวิทยาลัยการแพทย์คอร์เนล กล่าวว่า วัคซีนเข็มกระตุ้นช่วยเพิ่มระดับภูมิคุ้มกัน แต่เราก็ไม่ควรพึ่งพาวัคซีนเพียงอย่างเดียวในการป้องกัน ยังต้องร่วมด้วยการใช้หน้ากากอนามัย การหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด และย้ำว่าผู้ที่มีความเสี่ยงสูงจากโควิดควรเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น

          ดร.แอนดรูว์ เปคอสซ์ นักไวรัสวิทยาจากมหาวิทยาลัย จอห์น ฮอปกินส์ กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่ตัวแปรย่อยของโอไมครอนกำลังแพร่ระบาดสูง วัคซีนสามารถป้องกันการเจ็บป่วยหนักที่ทำให้ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลย

          วัคซีนไบวาเลนต์ สามารถป้องกันได้ทั้งโอไมครอนและเชื้อโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิม ขณะที่วัคซีนดั้งเดิมที่เรียกว่าวัคซีนโมโนวาเลนต์ สามารถป้องกันได้เพียงเชื้อโควิดสายพันธุ์แรกเท่านั้น

          ซีดีซีรายงานด้วยว่า ชาวอเมริกันร้อยละ 11 ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ส โดยร้อยละ 35 ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นไบวาเลนต์ และผู้สูงอายุประมาณร้อยละ 30 ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว

...

#วัคซีนโควิด

#สหรัฐอเมริกา