รอยเตอร์ รายงานว่า มาตรการล็อกดาวน์ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของจีน เริ่มสร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านและองค์กรธุรกิจในประเทศจีนมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่มีจำนวน 32,695 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ไม่กี่สัปดาห์หลังจากนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ทางการจีนอาจจะผ่อนคลายนโยบายลดโรคโควิด-19 เหลือ 0 ในต้นปีหน้า
หลายเมือง เช่น กรุงปักกิ่ง เมืองกวางเจา (มณฑลกวางตุ้งทางภาคใต้)และนครฉงชิ่ง ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน รายงานเรื่องการระบาดระลอกใหม่ มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น เมืองกวางเจา ซึ่งมีประชากร 19 ล้านคน พบผู้ป่วยใหม่ 7,524 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ขณะที่นครฉงชิ่ง มีผู้ป่วยใหม่ 6,500 คน และกรุงปักกิ่ง 1,860 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ผู้ป่วยใหม่ในเมืองฉือเจียจวง มณฑลหูเป่ยทางภาคเหนือของประเทศอยู่ในระดับตัวเลขสี่หลักเช่นกัน พร้อมทั้งมีการประกาศให้ล็อกดาวน์และมาตรการอื่นๆเพื่อลดการเดินทางของประชาชน ปิดห้างร้าน ชาวบ้านเริ่มรู้สึกไม่พอใจมาตรการล็อกดาวน์มากขึ้น เช่น ชายคนหนึ่งในนครฉงชิ่ง พูดในเวทีปราศรัยแห่งหนึ่งเมื่อวาน ขอให้รัฐบาลจีนยอมรับความผิดพลาดจากมาตรการควบคุมโรคโควิด-19
มีการแชร์คลิปวิดีโอการปราศรัยของชายดังกล่าวทางสื่อออนไลน์ของจีน ทั้งๆที่มีการตรวจสอบหรือการเซ็นเซอร์การเผยแพร่ข้อมูลต่างๆที่เผยแพร่ทางสื่อออนไลน์จีน
ที่เมืองเจิ้งโจว ที่ตั้งโรงงานฟ็อกซ์คอนน์ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่อง iPhone ที่ใหญ่ที่สุดในโลก คนงานใหม่ที่บริษัทรับสมัครเข้าทำงานกว่า 20,000 คนได้ออกจากโรงงาน หลังมีการล็อกดาวน์โรงงานทำให้เกิดเหตุประท้วงในสัปดาห์นี้ ทั้งอาจจะกระทบการผลิตเครื่อง iPhone รุ่น 14 ของบริษัทแอปเปิ้ลจากสหรัฐฯ ซึ่งบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ เป็นผู้รับจ้างผลิต
ด้านสถานทูตฝรั่งเศสประจำประเทศจีนโพสต์แถลงการณ์จากหอการค้าฝรั่งเศสในประเทศจีนทางสื่อออนไลน์จีน เสนอให้ทางการจีนใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดเฉพาะท้องที่ที่พบการแพร่ระบาด แทนการล็อกดาวน์แบบครอบคลุมทั้งเมือง ดังเช่นที่รัฐบาลจีนแนะนำให้รัฐบาลท้องถิ่นปฏิบัติรวม 20 มาตรการเกี่ยวกับแผนควบคุมโรคโควิด-19 เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน และแนวทางการปรับลดระยะเวลากักตัว เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของแต่ละพื้นที่
#จีน
#นโยบายลดโรคเหลือ0