นายกฯ ชี้ ต่างประเทศได้ข้อมูลม.44คลาดเคลื่อน ร่างรธน.เสร็จเดือนก.ย.ถ้าไม่วุ่นวาย

หลังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช. ) เป็นประธานงานสถาปนาโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ครบ 106 ปี และพิธีเปิดอาคารโรงเรียนเสนาธิการทหารบกแห่งใหม่ ณ อาคารโรงเรียนเสนาธิการทหารบก กองคลังยุทโธปกรณ์สรรพาวุธ   พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณศิษย์เก่าดีเด่นประจำปี2556-2557 ได้แก่

1.พลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม รุ่น 65



2. พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รุ่น63



3. พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รุ่น63



4.พลเอกฉัตรชัย สาลิกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รุ่น64



5.พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รุ่น 66



6.พลเอกศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม รุ่น 63



7.พลเอกวรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รุ่น64



8.พลเอกอุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก รุ่น65นายกรัฐมนตรี ได้ตอบคำถาม ที่ ลายฝ่ายกังวลเรื่องอำนาจของทหารภายหลังการประกาศใช้ มาตรา 44 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 แทนประกาศกฎอัยการศึก ว่า ขออย่ากังวลเพราะทหารไม่สามารถดำเนินการในเรื่องใดที่นอกเหนือจากกรอบได้ นอกจากนี้ เมื่อมีอำนาจแล้วยิ่งต้องระมัดระวังและใช้อย่างสร้างสรรค์  โดยมองว่า ต่างประเทศได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อน โดยเฉพาะข้อมูลจากสื่อมวลชน ที่วันนี้มีความพยายามให้มีการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล และพบว่าการพาดหัวของสื่อต่างประเทศ ระบุเรื่องการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่ความรุนแรงถึงขึ้นประหารชีวิตสื่อมวลชนนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริง ซึ่งหากตนเองยังถูกปรามาสอีก ก็จะออกมาเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด เพราะแต่ละคนต่างมีแผลทั้งสิ้น และมีเบื้องหลังอย่างไร

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้มีการปิดกั้นสื่อมวลชน สื่อยังสามารถทำหน้าที่ตรวจสอบได้ แต่ต้องพิจารณาก่อน จะตัดสินใครผิดหรือถูก ที่สำคัญก็ต้องคำนึงถึงประเทศชาติด้วย ขอให้นำเสนอข้อมูลให้ถูกต้อง ส่วนการเข้ามาจัดระเบียบแล้ว อาจมีบางคนไม่ชอบและอย่ามาอ้างประชาธิปไตย เพราะตนให้อยู่แล้ว และไม่เห็นว่าจะทำให้เดือดร้อน ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ดูแลประชาชนทุกคน ไม่เลือกว่าเป็นพรรคการเมืองใด แต่ทั้งหมดจะต้องเริ่มต้นปฏิรูปและขอให้มีรัฐบาลใหม่มาสานต่อ

ด้านการจัดการเลือกตั้งนั้น  เป็นไปตามโรดแม็ปที่วางไว้ ขณะที่การร่างรัฐธรรมนูญต้องเป็นไปเพื่อการปฏิรูป แก้ปัญหาที่ผ่านมานำไปสู่การมีธรรมาภิบาลของนักการเมือง โดยคาดว่าจะเสร็จก.ย.นี้ หากไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น