พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 4 โดยที่ประชุมรับทราบสถานการณ์และการบังคับใช้พระราชกำหนด(พ.ร.ก.)การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินและข้อมูลตัวชี้วัดในพื้นที่
พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาถึงเหตุการณ์และสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ และเห็นชอบการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกเว้น อ.ศรีสาคร อ.สุไหงโก-ลก อ.แว้ง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส อ.ยะหริ่ง อ.ไม้แก่น อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี และอ.เบตง อ.กาบัง จ.ยะลา ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 65 และสิ้นสุดลงใน 19 มีนาคม 66 โดยครั้งนี้ ไม่มีการปรับลดพื้นที่ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการป้องกัน ระงับ ยับยั้งสถานการณ์ในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที
พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำ ขอให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) พิจารณาใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินให้มีประสิทธิภาพ ระมัดระวังการเมิดสิทธิมนุษยชนในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และให้มีการทบทวนการปรับลดพื้นที่ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินอย่างรอบด้าน สอดคล้องกับบริบทสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อเร่งขับเคลื่อนงานยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนไปพร้อมกัน พร้อมทั้งขอให้เร่งสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่ จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยเฉพาะต้องมีการเฝ้าระวังและเปิดเผยบุคคลเป้าหมายให้สาธารณะชนทราบ รวมทั้งมีมาตรการระวังป้องกัน การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้นมากขึ้น และขอเป็นกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกคนและขอให้ไม่ประมาทในการปฏิบัติงาน
#พระราชกำหนดการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน
#ภาคใต้
CR:รัฐบาลไทย