ประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวหารัสเซียว่าก่อเหตุอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ จากการเร่งโจมตีโรงไฟฟ้าหลายแห่ง ทำให้ไฟฟ้าดับทั่วยูเครน กับมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 รายจากการโจมตีเขื่อนกั้นน้ำ และต้องปิดเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 3 เครื่อง กระทรวงพลังงาน เพิ่มเติมว่า โรงไฟฟ้าพลังความร้อนและพลังน้ำก็ปิดการทำงานเช่นกัน
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่นิวยอร์กมีการประชุมวาระเร่งด่วนเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน ซึ่งประธานาธิบดีเซเลนสกี ที่เข้าร่วมการประชุมผ่านระบบออนไลน์ กล่าวว่า การโจมตีของรัสเซียทำให้ผู้คนหลายล้านคนต้องอยู่อาศัยโดยปราศจากแหล่งพลังงาน ไม่มีความร้อน และไม่มีน้ำ ขณะที่อุณหภูมิทั่วไปลดลงต่ำกว่าศูนย์องศาเซลเซียส
เมื่อวานนี้ (23 พ.ย.) ยูเครนออกประกาศเตือนการโจมตีทางอากาศทั่วประเทศ มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ รวมถึงในกรุงเคียฟ พลเอก วาเลรี ซาลุซนี ผู้บัญชาการกองทัพยูเครน กล่าวว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธร่อน 67 ลูก ระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถสกัดกั้นขีปนาวุธได้ 51 ลูก แต่การโจมตีได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากต่อโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ
นอกจากนี้ มอลโดวาซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านก็ประสบปัญหาไฟฟ้าดับ แม้ว่าจะไม่ได้ถูกโจมตีโดยตรง เนื่องจากมอลโดวา ยูเครน รวมถึงโรมาเนียที่อยู่ใกล้เคียงมีการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้ากับสหภาพยุโรป เมื่อยูเครนมีปัญหาระบบไฟฟ้า ทำให้การเชื่อมต่อทั้งหมดถูกตัดโดยอัตโนมัติ ประธานาธิบดีไมอา ซานดู แห่งมอลโดวา ทวีตข้อความว่า รัสเซียทำให้มอลโดวาต้องตกอยู่ในความมืดมิด แต่ระบบไฟฟ้าสามารถกู้คืนได้ ขณะนี้กำลังมีการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ระบบการจ่ายไฟฟ้ากลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
...
#โรงไฟฟ้ายูเครน