*ปธ.สนช.ชี้แจงสถานการณ์การเมืองไทยให้อดีตผช.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ เข้าใจ*

การเข้าพบนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือสนช.เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการยกร่างรัฐธรรมนูญ และการหารือถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย ของนายเจมส์ จิม เฮนรี่ เวบบ์ จูเนียร์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯและอดีตวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ นายเจมส์ ระบุว่า สหรัฐฯต้องการให้ประเทศไทยกลับสู่การเลือกตั้งโดยเร็ว เพื่อคืนประชาธิปไตยที่ยั่งยืนให้ประชาชน และหวังว่าการปฎิรูปจะทำให้ไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงในแนวทางประชาธิปไตยที่ยั่งยืนมากขึ้นในอนาคต ซี่งสหรัฐฯ กังวลถึงประชาธิปไตยของไทยในฐานะมิตรประเทศ และในวันนี้ได้สอบถามถึงความคืบหน้าในการยกร่างรัฐธรรมนูญในหมวดว่าด้วยระบบการเมือง รวมถึงเรื่องการใช้มาตรา 44 ด้วย ขณะที่นายพรเพชร ชี้แจงให้เข้าใจว่า การยกเลิกกฎอัยการศึก จะทำให้บรรยากาศสถานการณ์ทางการเมืองมีความผ่อนคลายมากขึ้นกว่าก่อน เนื่องจากกฎอัยการศึกเมื่อเทียบกับมาตรา44 ที่ใช้อยู่ขณะนี้ กฎอัยการศึกให้อำนาจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)มากและมีผลบังคับมากกว่ามาตรา44 ซี่งแสดงให้เห็นว่าขณะนี้คสช.ได้ผ่อนคลายมากขึ้นและสถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ รวมทั้งการใช้มาตรา 44 ก็คงเป็นความต้องการของประชาชนและน่าจะเหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนี้ของประเทศไทยมากกว่า และในอดีตกฎอัยการศึกก็ไม่ได้ใช้ทุกมาตราอยู่แล้ว ซี่งการปรับใช้มาตรา 44 น่าจะช่วยทำให้สถานการณ์ดีขึ้นกว่าก่อน

ขณะที่นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล สมาชิกสนช. อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศและอดีตเอกอัครราชทูต ระบุว่า ก่อนหน้านี้ประเทศไทยเกิดวิกฤตทางการเมืองจนต้องมีการรัฐประหารเพื่อแก้ไขสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้ถือว่าสถานการณ์กำลังดีขึ้นและได้เดินหน้าสู่การปฎิรูปในทุกด้าน คาดว่าไม่เกินเดือนตุลาคม ร่างรัฐธรรมนูญก็คงจะแล้วเสร็จ และคาดว่าจะเข้าสู่กระบวนการการเลือกตั้งได้ในช่วงต้นปี2559

ส่วนการประชุมของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญในวันนี้นั้น นาย คำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกมธ.ยกร่าง เปิดเผยว่า ไม่ได้มีประเด็นใหม่เป็นการหารือกันภายในว่าประชาชนจะได้สิ่งใดจากรัฐธรรมนูญ และเป็นการปรับแก้คำพูดบางส่วนเท่านั้นซึ่งความหมายยังคงเดิม นายคำนูณ ยอมรับว่า มีกระแสถึงร่างรัฐธรรมนูญในประเด็นการเมืองมาก ทั้งที่การเมืองเป็นเพียงส่วนหนี่งเท่านั้น และยังมีอีกหลายประเด็น เช่นการคลัง เรื่องงบประมาณ ที่น่าให้ความสนใจ แต่ส่วนตัวก็เข้าใจดีว่าการเมืองเป็นเรื่องสำคัญ ซี่งคงมีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้จะปรับทิศทางการสื่อสารกับประชาชนให้มากขึ้น เพื่อให้เข้าใจต่อร่างรัฐธรรมนูญ

ธีรวัฒน์