แนนซี เพโลซี ประกาศลงจากตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร สหรัฐฯ

          นางแนนซี เพโลซี ประกาศลงจากตำแหน่งผู้นำพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกาที่เธอทำหน้าที่สำคัญมาเกือบสองทศวรรษ ซึ่งมีผลให้เธอลงจากตำแหน่งประธานสภาคองเกรสไปด้วย เธอกล่าวว่า ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะเปลี่ยนจากแม่บ้านไปเป็นประธานสภา และเธอจะไม่ลงเลือกตั้งครั้งใหม่เพื่อที่จะกลับมาเป็นผู้นำพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสอีก ถึงเวลาแล้วที่คนรุ่นใหม่จะเป็นผู้นำพรรคเดโมแครต

          นางเพโลซี อายุ 82 ปีเป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในสภาคองเกรสและเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำหน้าที่เป็นประธานสภาคองเกรส เธอจะพ้นจากตำแหน่งสำคัญนี้ในเดือนมกราคม 2566 เมื่อสมาชิกชุดใหม่เข้ารับตำแหน่ง เธอเป็นส.ส.แคลิฟอร์เนียสมัยแรกในปี 2530 และจะอยู่ในตำแหน่ง ส.ส.ต่อไปจนครบวาระในปี 2568

          ประธานาธิบดี โจ ไบเดน กล่าวว่า นางเพโลซีคือประธานสภาผู้แทนราษฎรที่มีการทำงานสืบเนื่องยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของเรา

          การลงจากตำแหน่งสำคัญเกิดขึ้นหลังจากรีพับลิกันครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร จากการเลือกตั้งกลางภาค และมีการเสนอชื่อนายเควิน แมคคาธีย์ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่

          สำหรับตำแหน่งผู้นำพรรคเดโมแครตคนใหม่ ในสภาผู้แทนราษฎร มีการคาดหมายว่า จะได้แก่นายฮาคีม เจฟฟรีส์ ส.ส.นิวยอร์ก

          นางเพโลซี เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเมื่อปี 2546 และเมื่อพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภาฯ เมื่อปี 2549 เธอจึงกลายเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานสภาคองเกรส

          แต่ในอีก 4 ปีถัดมา เธอกลับมาเป็นผู้นำฝ่ายค้านอีกครั้ง และกลับมาเป็นประธานสภาฯ ในปี 2561 ซึ่งเธอได้รับการชื่นชมอย่างมากในการจัดการร่างกฎหมายด้านการดูแลสุขภาพของอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา และกฎหมายแก้ไขปัญหาโครงสร้างพื้นฐานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศภายใต้ประธานาธิบดี โจ ไบเดน

          และเธอเป็นที่จดจำจากการท้าทายอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์โดยตรงตลอดเวลาที่เขาอยู่ในตำแหน่ง โดยเฉพาะการฉีกสำเนาคำปราศรัยของเขา

          แต่มีข่าวลือเกี่ยวกับการที่เธอจะวางมือจากการเมือง ตั้งแต่ในเดือนที่แล้ว (ต.ค.) เมื่อเกิดเหตุคนร้ายบุกรุกบ้านพักและทำร้ายร่างกายสามีของเธอ

...

#แนนซีเพโลซี

#การเมืองสหรัฐ