ขีปนาวุธที่ตกในโปแลนด์ กลายเป็นฝีมือระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครน

          หลังเกิดเหตุการณ์ขีปนาวุธตกใส่โปแลนด์ ประเทศเพื่อนบ้านของยูเครน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย ล่าสุด รัฐบาลรัสเซียแถลงปฏิเสธความเกี่ยวข้องอย่างชัดเจน สอดคล้องกับที่นายโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์ที่เวทีการประชุมจี 20 ที่อินโดนีเซียว่า "ดูเหมือนจะไม่ได้มาจากการยิงของรัสเซีย นายลุดิวีน เดด็องเดร์ รมว.กลาโหมเบลเยียม กล่าวว่า ข้อมูลเบื้องต้นที่ได้จากการสอบสวนเต็มรูปแบบของหน่วยข่าวกรองของเบลเยียม ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรขององค์การนาโต ดูเหมือนว่าการโจมตีในพรมแดนโปแลนด์ จะมาจากระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครน เพื่อจะต้านทานขีปนาวุธของรัสเซีย

          ความวิตกก่อนหน้านี้ คือหากเป็นการโจมตีของรัสเซียต่อโปแลนด์ สถานการณ์ความขัดแย้งจะบานปลายใหญ่โต เนื่องจากโปแลนด์เป็นสมาชิกนาโต การโจมตีชาติสมาชิกใดก็ตามของนาโตจะถือเป็นการเปิดฉากรบกับนาโตโดยรวม

          นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียแถลงต่อมา ย้ำว่า "เหตุการณ์ในโปแลนด์ ไม่เกี่ยวอะไรกับรัสเซียเลย" พร้อมกล่าวชมรัฐบาลสหรัฐที่ตอบเรื่องนี้อย่างชั่งใจไม่ด่วนสรุป

          ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า จากภาพถ่ายความเสียหายตรงจุดถูกถล่ม ผู้เชี่ยวชาญของรัสเซียประเมินว่าชิ้นส่วนที่ตกอยู่ เป็นขีปนาวุธของยูเครน ชนิด S-300 จากระบบป้องกันทางอากาศ ปกติใช้อยู่ในพรมแดนยูเครน และมีวิถีจากพรมแดนยูเครน-โปแลนด์ไม่น้อยกว่า 35 กิโลเมตร

          ซีเอ็นเอ็นอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ซึ่งประเมินข่าวกรองในเบื้องต้น ว่า ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐฯคาดว่าขีปนาวุธดังกล่าวยิงจากฝั่งยูเครน แม้ว่า รัสเซียเป็นผู้ผลิตขีปนาวุธดังกล่าว สอดคล้องกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯซึ่งแสดงความเห็นเรื่องนี้ก่อนหน้านี้ว่า จากการประเมินเรื่องทิศทางการร่อนของขีปนาวุธ ต้นตอของขีปนาวุธดังกล่าวไม่น่าจะถูกปล่อยมาจากรัสเซีย พร้อมทั้งขอให้ทุกฝ่ายรอผลการสอบสวนของโปแลนด์

        เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของสหรัฐฯได้พูดคุยเรื่องนี้ระหว่างการประชุมด่วน ซึ่งเรียกประชุมโดยนายไบเดน นอกรอบการประชุมสุดยอดของกลุ่มจี20 ที่เกาะบาหลี อินโดนีเซียในวันนี้ และเรื่องนี้จะเป็นหนึ่งในหัวข้อการประชุมฉุกเฉินของคณะเอกอัครราชทูตของสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต)ในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียมในวันนี้ โดยนาโตจัดประชุมฉุกเฉินตามคำร้องจากโปแลนด์

        ซีเอ็นเอ็นระบุว่า ที่ผ่านมา ทั้งกองทัพรัสเซียและกองทัพยูเครนต่างฝ่ายต่างใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ผลิตในรัสเซียในการสู้รบในยูเครนตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งซีเอ็นเอ็นเคยรายงานก่อนหน้านี้ว่า ขีปนาวุธที่ผลิตในรัสเซียถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของระบบป้องกันทางอากาศของยูเครน ส่วนใหญ่เป็นขีปนาวุธรุ่นเก่าที่ทั้งรัสเซียและยูเครนใช้เรื่อยมาตั้งแต่ประเทศทั้งสองยังเป็นอาณาเขตส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียต

#รัสเซียยูเครน