จีดีพีไตรมาสที่ 3 ของญี่ปุ่น ติดลบร้อยละ 1.2 ครั้งแรกในรอบ 1 ปี

          บรรษัทกระจายเสียงเอ็นเอชเค รายงานอ้างสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้หดตัวร้อยละ 1.2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส การใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของจีดีพีของญี่ปุ่น เติบโตเพียงร้อยละ 0.3 ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

          ผู้บริโภคส่วนใหญ่ปรับลดค่าใช้จ่าย เนื่องจากเป็นกังวลเรื่องการระบาดใหม่ของโรคโควิด-19 ลดการเดินทางและลดค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการต่างๆ นอกจากนี้ ราคาพลังงานและอาหารเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคลดค่าใช้จ่ายลง

          ด้านสำนักข่าวเกียวโด รายงานอ้างนายยูอิชิ โคดามะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยเมจิ ยาสุดะ รีเสิร์ช อินสทิทิว(Meiji Yasuda Research Institute)ระบุว่า เงินเฟ้อของญี่ปุ่นในเดือนกันยายนที่ร้อยละ 3.0 สูงเกินเป้าที่ธนาคารกลางแห่งญี่ปุ่นตั้งไว้คือ ร้อยละ 2 กระทบต่อความมั่นใจของผู้บริโภคเช่นเดียวกัน ขณะเดียวกัน การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในกลุ่ม 7 ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกหรือกลุ่มจี-7

          สำหรับการส่งออกของญี่ปุ่นในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เติบโตร้อยละ 1.9 แต่ราคาพลังงาน เช่น น้ำมันดิบ แพงขึ้น และเงินเยนอ่อนลง ทำให้ตัวเลขการนำเข้าของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2

          ขณะเดียวกัน การใช้จ่ายเพื่อการลงทุน เติบโตร้อยละ 1.5 ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ บริษัทเอกชนส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นชะลอโครงการลงทุนใหม่ๆ เนื่องจาก สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

          เมื่อเดือนที่แล้วนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 260,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.3 ล้านล้านบาท

#ญี่ปุ่น

#จีดีพีไตรมาสที่3