*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา08.30น.*

02 เมษายน 2558, 09:19น.


+++การประชุมคณะกรรมการปฏิรูปภาษีกระทรวงการคลัง นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สั่งการมายังกระทรวงการคลังว่า ไม่ควรให้สัมภาษณ์หรือให้ข้อมูลใดๆ จนกว่ากฎหมายจะผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) จากนี้ไปคงจะไม่สามารถให้ข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับภาษีได้ แต่คาดว่าอีกประมาณ 4 เดือนน่าจะมีความชัดเจนเรื่องการปฏิรูปภาษี รวมถึงเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปภาษีที่มีภาคเอกชนมาร่วมด้วยนั้นมีข้อเสนอหลายเรื่องจากภาคเอกชน จึงมอบการบ้านไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูในรายละเอียด โดยนัดประชุมอีกครั้งในช่วงปลายเดือนเม.ย.ในช่วงนี้คงต้องหยุดคุยเรื่องภาษีไปก่อน หลังจากนี้อีก 4 เดือนค่อยมาว่ากันใหม่



+++ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกฯ  เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน สั่งการให้นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี ประสานภาครัฐและเอกชนให้เข้าใจการทำงานของรัฐบาลในระยะที่ 2 ทั้งเรื่องการสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำ นอกจากนี้ให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี แก้ปัญหาเอสเอ็มอี โดยเร่งขึ้นทะเบียนและส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ และขยายเพดานเงินกู้ ทั้งเอสเอ็มอีประเภทธุรกิจใหม่ ธุรกิจเกี่ยวกับด้านการส่งออก การขยายธุรกิจในประเทศ และธุรกิจที่จะไปลงทุนในต่างประเทศ นายกฯ สั่งการให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ติดตามเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณรายไตรมาส โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และให้กระทรวงมหาดไทยเข้ามาดูแลเรื่องนี้ด้วย รวมทั้งให้เร่งรัดจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษให้แล้วเสร็จในปีนี้ทั้ง 5 แห่งและเพิ่มเติมอีก 1 แห่ง  และพัฒนาให้เข้าถึงพื้นที่ที่จะมีการลงทุน โดยจะมีระยะเวลาการให้เช่าพื้นที่ 50 ปี และขยายเวลาเพิ่มเติมอีก 49 ปี ขณะเดียวกันให้ คตร.เข้าไปตรวจสอบการรับซื้อยางพาราในโครงการมูลพันธ์กันชน และให้กระทรวงการคลังเร่งหาสินเชื่อให้กับเกษตรกรเพื่อแปรรูปยางพารา



+++ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) เดือนมี.ค.นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เท่ากับ 106.33  สูงขึ้นร้อยละ 0.17 จากเดือนกุมภาพันธ์ 2558 แต่ติดลบร้อยละ 0.57 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นการติดลบต่อเนื่องเดือนที่ 3 และต่ำสุดในรอบ 5 ปี 6 เดือน นับจากเดือนกันยายน 2552 ซึ่งติดลบร้อยละ 0.1 ทำให้เฉลี่ย 3 เดือนแรกปีนี้ เงินเฟ้อติดลบร้อยละ 0.50 สาเหตุทำให้เงินเฟ้อเดือนมีนาคมเปลี่ยน แปลงน้อยเมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ เพราะการปรับตัวสูงขึ้นของราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีก ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 10 ในการ คำนวณเงินเฟ้อ และราคาผักสดและผลไม้ สูงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศร้อนกระทบต่อ ผลผลิตลดลง โดยเดือนมีนาคมรายการสินค้า ส่วนใหญ่ สัดส่วนร้อยละ 46.45 หรือ 209 รายการ ราคาไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่สินค้า 149 รายการ หรือสัดส่วนร้อยละ 33.11 ปรับราคาขึ้น แต่สินค้า 92 รายการหรือสัดส่วร้อยละ 20.44 ราคาลดลง ทั้งนี้ แม้เงินเฟ้อจะติดลบ 3 เดือนต่อเนื่องแล้ว แต่ก็ยังไม่ถือว่าอยู่ในภาวะเงินฝืด เพราะดูจากรายการสินค้าที่ลดลง จากราคาน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน รวมถึงการแข่งขันลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคทำให้ราคาสินค้าลดลง แต่สินค้าส่วนใหญ่ก็ยังทรงตัวในระดับสูง และยังไม่พบพฤติกรรมหยุดซื้อหรือหยุดผลิต



+++นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า กรณีคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) เสนอปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศจากวันละ 300 บาท เป็น 360 บาท เนื่องจากค่าครองชีพสูงขึ้นนั้น เป็นอัตราที่สูงเกินไป อีกทั้งเรื่องการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วไป ตามกำหนดจะต้องพิจารณาช่วงปลายปีนี้ เพื่อประกาศใช้ในปี 2559 จึงเห็นว่าคณะกรรมการไตรภาคีจะต้องพิจารณาแนวทางให้รอบคอบ และหากขึ้นไปถึง 360 บาทจะมีผลกระทบต่อธุรกิจที่เพิ่งปรับตัวกับค่าแรง 300 บาทต่อวัน ซึ่งมีกำไรไม่มากจะเสี่ยงกับการขาดทุนและปิดกิจการ เนื่องจากเศรษฐกิจปัจจุบันการบริโภคภายในประเทศเองก็ยังไม่ดี ขณะที่การส่งออกก็ยังมีปัญหา การพิจารณาควรสะท้อนเงินเฟ้อ และค่าครองชีพของแต่ละพื้นที่มาเฉลี่ย ซึ่งสูตรคิดเดิมมีความเหมาะสมแล้ว ไม่ใช่คิดแบบขึ้นทันทีทั่วประเทศ 300 บาท ทำให้ธุรกิจขนาดกลางและย่อมในช่วงนั้นต้องปิดกิจการไปจำนวนมาก  นายวัลลภ กล่าวว่า ค่าแรง 300 บาทต่อวันในปัจจุบัน ถือว่าอยู่ในระดับสูงแล้ว เมื่อเทียบกับคู่แข่งทางการค้าแถบประเทศเพื่อนบ้าน จึงทำให้อุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นต่างทยอยปรับตัวด้วยการหันไปลงทุนยังประเทศเพื่อนบ้านแทน ดังนั้นหากการขึ้นค่าแรงที่สูงเกินไปจะยิ่งผลักดันให้อุตสาหกรรมเหล่านี้ต้องหันไปประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้นอีก



+++การลงทุนในตลาดหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ 17,698.18 จุด ลดลง 77.94 จุด  ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,880.23 จุด ลดลง 20.65 จุด ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,059.69 จุด ลดลง 8.20 จุด ตลาดได้รับแรงกดดันจากรายงานยอดขายรถยนต์ที่ซบเซาของสหรัฐฯ ส่วนการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯปรับตัวขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดแรงงาน



+++สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 2.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.09 ดอลลาร์/บาร์เรล  หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้



+++นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติมอบหมายให้นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ในระดับผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. ทำหน้าที่ในการแถลงเปิดคดีต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในการพิจารณาถอดถอนนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าระหว่างประเทศ ที่มีพฤติกรรมส่อว่าทุจริตต่อหน้าที่ และกระทำขัดต่อรัฐธรรมนูญในคดีขายข้าวจีทูจีมิชอบ ส่วนในวันที่ 2 เมษายนนี้ จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาคำขอเพิ่มเติมพยานหลักฐาน จะต้องดูว่ามีใครยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมหรือไม่ และพยานหลักฐานที่ยื่นมีอยู่ในสำนวน ป.ป.ช.หรือไม่ จะให้เพิ่มพยานหลักฐานที่ขอมาหรือไม่ ขณะนี้นายวิชาได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพยานหลักฐานในสำนวนแล้ว



++ส่วนการส่งสำนวนคดีอดีต 250 ส.ส. กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มา ส.ว.โดยมิชอบ ให้ สนช.ดำเนินการถอดถอน ล่าสุดที่ประชุม ป.ป.ช.ได้ลงนามรับรองสำนวนการถอดถอนคดีดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนดำเนินการทางธุรการ เพื่อส่งรายงานและสำนวนให้ สนช.พิจารณา ภายใน 1-2 สัปดาห์จะส่งเรื่องให้ สนช.ดำเนินการถอดถอนได้ คาดว่าอย่างเร็วไม่เกินสัปดาห์นี้ หรือช้าสุดไม่เกินกลางเดือนเม.ย.จะส่งเรื่องไปได้ อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้ปรับลดจำนวนอดีต ส.ส.ที่ถูกชี้มูลความผิดจากเดิม 250 คน เหลือ 249 คน เนื่องจาก นายทองดี มนิสาร อดีต ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย เสียชีวิต จึงต้องจำหน่ายคดีออกจากสารบบไป



+++ความคืบหน้าการตรวจสอบบริเวณสนามแข่งรถโบนันซ่า เขาใหญ่ และพื้นที่ปลูกบ้านพักในโครงการโบนันซ่า รีสอร์ท เขาใหญ่ ที่ถูกร้องเรียนว่าบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเสียดอ้า เขานกยูง เขาอ่างหิน ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา กว่า 100 ไร่ นายนิธิศเชษฐ์ สุทธิเจริญกุล ผู้จัดการดูแล สิ่งแวดล้อมกิจกรรม โบนันซ่า เขาใหญ่ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.สายันต์ จันทะปัญญา พนักงานสอบสวน สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมนำเอกสารการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ ประกอบด้วย บปท.5 สปก. และ น.ส.3 ก. จำนวน 55 ไร่ พร้อมให้สอบปากคำ โดยพนักงานสอบสวน ตั้งข้อกล่าวหานายนิธิศเชษฐ์ 5 ข้อกล่าวหา ความผิดการบุกรุกพื้นที่ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้, พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ, พ.ร.บ.ตามประมวลกฎหมายที่ดิน, พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยนายนิธิศเชษฐ์ให้การปฏิเสธ พร้อมยื่นเงินสด 400,000 บาท ประกันตัวออกไป          พ.ต.ต.สายันต์กล่าวว่า ตามขั้นตอนจะต้องส่งเอกสารเกี่ยวกับที่ดินตามที่ผู้ต้องหานำมาแสดง ถึงหน่วยงานที่ดินเพื่อยืนยันว่า ผู้ถือครองคือใคร จึงจะดำเนินตามตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป



+++นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ดีเอสไอได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้บัญชาการสำนักคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ สืบสวนข้อเท็จจริงในประเด็นการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนของสนามแข่งรถโบนันซ่า เขาใหญ่ เพื่อรวบรวมข้อมูลว่ามีการบุกรุกจำนวนเท่าใด บุคคลใดเกี่ยวข้องบ้าง ทั้งนี้ หากมีข้อมูลเพียงพอจะนำเสนอคณะกรรมการคดีพิเศษพิจารณา ว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่



+++พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) และคณะทำงานได้ดำเนินการจากข้อมูลของการร้องเรียน กับข้อมูลจากการสืบสวนจึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นหัวหน้าคณะดูแลเรื่องดังกล่าว และประสานหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ภาคอีสานยังมีการบุกรุกที่อีกเป็นจำนวนมาก ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยไม่จำกัดเฉพาะจุดใดจุดหนึ่ง สำหรับพี่น้องประชาชนที่มีข้อมูล หรือเป็นคนในพื้นที่ มีข้อมูลเกี่ยวกับการบุกรุกและมีเจ้าหน้าที่ของรัฐรู้เห็นด้วย สามารถส่งข้อมูลมาที่ ศอตช.เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายได้ ทั้งนี้ต้องระมัดระวังตัวเองด้วย เนื่องจากเรื่องนี้ต้องมีผู้มีอิทธิพลหรือมีขีดความสามารถพอสมควรจึงดำเนินการทำผิด และอยู่เหนือเจ้าหน้าที่ท้องที่ได้เหมือนกรณีเช่นนี้



 

ข่าวทั้งหมด

X