ไอเอ็มเอฟ ลดคาดการณ์ศก.โลกปีหน้าเหลือ 2.7% ศก.จีนอ่อนแอ-วิกฤตพลังงานยุโรป

           กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)เปิดเผยรายงานเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจโลก(global economic outlook) สำหรับปี 2567 ก่อนการประชุมสุดยอดกลุ่ม 20 ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่(จี-20) ที่เกาะบาหลี อินโดนีเซีย 15-16 พฤศจิกายนนี้

           ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีหน้า จากตัวเลขเดิมเมื่อเดือน ต.ค.65 ที่ร้อยละ 2.9 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.7

            ผลสำรวจของไอเอ็มเอฟ ของผู้จัดการแผนกจัดซื้อสินค้า ซึ่งเป็นตัวชี้วัดกิจกรรมภาคการผลิตสินค้าและภาคบริการ ชี้ว่า การจัดซื้อสินค้าลดลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มจี-20

            นอกจากนี้ ปัจจัยลบอื่นๆ เช่น การที่ธนาคารกลางของหลายประเทศทั่วโลก ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุมเงินเฟ้อสูง ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจจีนอ่อนแอจากมาตรการล็อกดาวน์ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และทำให้เกิดปัญหาด้านซัพพลายเชน อีกทั้งปัญหาความไม่มั่นคงด้านอาหารนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครน ส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปีหน้าแย่ลงกว่าเดิม

            ไอเอ็มเอฟ เห็นว่า การคุมเข้มนโยบายการเงินและการคลังอย่างต่อเนื่องอาจจะมีความจำเป็นสำหรับประเทศส่วนใหญ่ รวมถึงการควบคุมตัวเลขหนี้สาธารณะ พร้อมคาดว่า ประเทศส่วนใหญ่ในกลุ่มจี-20 จะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อในปีนี้และปีหน้า

             ขณะเดียวกัน วิกฤติพลังงานในยุโรปซึ่งแย่ลงอย่างต่อเนื่องจะกระทบการเติบโตทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อสูง จะทำให้ธนาคารกลางยุโรปเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า จะทำให้เศรษฐกิจของยุโรปชะลอตัว ขณะเดียวกัน บรรดาประเทศที่มีความอ่อนแอทางเศรษฐกิจมีความเสี่ยง เช่น หนี้สาธารณะจะสูงขึ้น นอกจากนั้น สภาพอากาศแปรปรวนอย่างรุนแรงจะกระทบผลผลิตการเกษตรและการเติบโตเศรษฐกิจทั่วโลก

#ไอเอ็มเอฟ

#ลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจ