สหรัฐฯ คาด อาจมีทหารรัสเซียและยูเครน เสียชีวิต-บาดเจ็บฝ่ายละ 2 แสนรายในสงคราม

         บีบีซี รายงานอ้างพล.อ.มาร์ก มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯว่า สหรัฐฯประเมินว่า ทหารรัสเซียและทหารยูเครนเสียชีวิต หรือ บาดเจ็บฝ่ายละ 200,000 ราย นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ คาดว่า พลเรือนในยูเครนเสียชีวิตราว 40,000 ราย เนื่องจาก ติดค้างอยู่ในพื้นที่สู้รบ นับเป็นการประเมินตัวเลขการเสียชีวิตของทหารและพลเรือนมากที่สุด ซึ่งประเมินโดยผู้นำระดับสูงของกองทัพสหรัฐฯ และสูงกว่าตัวเลขที่พล.อ.เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย แถลงในเดือนกันยายนว่าทหารรัสเซียเสียชีวิต 5,937 ราย นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์

         ขณะเดียวกัน พล.อ.มิลลีย์ สังเกตแนวโน้มเชิงบวกว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน เริ่มส่งสัญญาณถึงรัสเซียว่า ต้องการจะกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจากับรัสเซีย พร้อมทั้งยกเลิกเงื่อนไขเดิมที่ระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียจะต้องพ้นจากตำแหน่งก่อนการเจรจากับยูเครนจึงจะเกิดขึ้น ซึ่งในประเด็นนี้ พล.อ.มิลลีย์ กล่าวว่า การเจรจาจะประสบผลสำเร็จก็ต่อเมื่อทั้งสองฝ่าย คือ รัสเซียและยูเครน เห็นตรงกันว่า ชัยชนะในสนามรบด้วยยุทธวิธีทางการทหารจะไม่ประสบผลสำเร็จ ทั้งสองฝ่ายเห็นความจำเป็นที่จะต้องแสวงหาแนวทางอื่นๆ รวมถึงการเจรจา เพื่อยุติปมขัดแย้งอย่างสันติ

          พล.อ.มิลลีย์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางทหารระดับสูงสุดของประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ กล่าวว่า ตัวเลขการสูญเสียกำลังทหารจำนวนมากจากการสู้รบในยูเครนอาจจะทำให้ทั้งรัสเซียและยูเครนเห็นความจำเป็นที่จะต้องกลับมาเจรจาก่อนเข้าสู่ฤดูหนาวในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งโดยปกติ การสู้รบจะไม่คืบหน้ามากนักเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นจัด

         พล.อ.มิลลีย์ ระบุว่า การสู้รบในยูเครนสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนจำนวนมากในยูเครน มีผู้อพยพ 15-30 ล้านคนนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครน ขณะที่ สหประชาชาติ(ยูเอ็น) ระบุว่า มีผู้อพยพ 7.8 ล้านคนจากยูเครนเข้าไปในหลายประเทศทั่วทั้งทวีปยุโรป รวมถึงรัสเซีย

#สหรัฐฯ

#การเจรจาสันติภาพ

#การสู้รบในยูเครน