ผบ.ทบ.ขอให้ประชาชนเข้าใจความจำเป็นใช้ม.44คุมสถานการณ์แทนกฎอัยการศึก

01 เมษายน 2558, 20:54น.


การประกาศใช้กฎหมายใหม่ที่ออกตามความในม.44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 หลังจากที่มีการประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)กล่าวว่า ในฐานะที่ดูแลความมั่นคง อยากให้ประชาชนเข้าใจว่าขณะนี้สถานการณ์แม้ว่าจะดูสงบเรียบร้อย แต่บางสิ่งบางอย่างอาจไม่เรียบร้อยอยู่บ้าง โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย ซึ่งใน1-2 เดือน ยังมีผู้ไม่ปรารถนาดีก่อความไม่สงบขึ้น จึงยังจำเป็นต้องมีกฎหมายพิเศษ เพราะกฎหมายปกติอาจไม่ทันต่อเหตุการณ์ถือเป็นความจำเป็นที่ต้องใช้ และมีเพื่อประโยชน์ของส่วนร่วมและเพื่อความสงบสุข ดังนั้นอย่าไปกังวลในสิ่งต่างๆมากนัก เพราะประชาชนที่ดำเนินชีวิตปกติไม่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายพิเศษเหล่านี้ ตรงกันข้ามกฎหมายพิเศษจะช่วยให้พลเมืองดีอยู่ได้อย่างมีความสุข เนื่องจากจะใช้กับเหตุการณ์ที่ก่อจะให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยเท่านั้นเอง



ส่วนข้อสรุปเรื่องการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย7 วัน และการนำพลเรือนที่กระทำความผิดขัดคำสั่งคสช.ฉบับที่ 37 ขึ้นศาลทหาร  พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งคำสั่งคสช.ถือเป็นกฎหมาย เมื่อกฎหมายระบุอย่างไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพราะเจ้าหน้าที่คำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ เชื่อว่าทุกคนยอมรับได้ ส่วนที่จะมีการเพิ่มเติมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมเป็นเจ้าพนักงานร่วมกับทหารนั้น ยอมรับว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่มีการปรับ โดยจากเดิมที่ทหารเป็นเจ้าพนักงานฝ่ายเดียวในการเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ทำให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้เข้าไปทำงานเพียงส่วนเดียว แต่ร่วมกันปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาต่างๆ เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นก็จะทำงานให้ข้อคิดเห็นและประสานงานร่วมกัน คงทำให้ความรู้สึกต่างๆดีขึ้น ขอให้ทุกคนเข้าใจและร่วมมือกับรัฐบาลในกฎหมายที่ออกมาใหม่



ส่วนการตัดสินใจ ยกเลิกกฎอัยการศึกจะทำให้เศรษฐกิจและแรงกดดันจากต่างชาติดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า น่าจะดีขึ้น เพราะนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลได้ใคร่ครวญดีแล้วจากการพูดคุยกับส่วนที่เกี่ยวข้อง ตนคิดว่าเมื่อสิ่งเหล่านี้ออกมา ต่างชาติที่ไม่เข้าใจและวิตกเรื่องกฎอัยการศึกก็คงให้ความเข้าใจกับเราบ้าง น่าจะทำให้สิ่งต่างๆดีขึ้น กรณี สหภาพยุโรปหรืออียู กังวลเรื่องการใช้ม.44 อาจจะมีผลต่อข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ไม่อยากนำเรื่องเศรษฐกิจมาเกี่ยวพันกับการเมือง ส่วนจะเกี่ยวพันกันหรือไม่อยากให้ไปวิเคราะห์กัน เช่นเรื่องเศรษฐกิจจะบีบกันหรือไม่ก็แล้วแต่จะมอง ตนไม่อยากให้นำมาพัวพันกัน แต่เชื่อว่าภาพรวมเรื่องราวต่างๆ ดีขี้น อยากให้สื่อช่วยเป็นกำลังใจและสนับสนุน เพราะนายกฯได้พยายามแก้ไขปัญหาต่างๆมาโดยตลอด ซึ่งปัญหาต่างๆมีมากมาย ทั้งนี้จะพยายามแก้ไขปัญหาทุกอย่างให้ดีขึ้นและประสบความสำเร็จ แต่ปัญหานั้นมีมากจึงต้องใช้เวลา และบางอย่างจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษในการแก้ไขปัญหา

ข่าวทั้งหมด

X