นายเหวียน ห่ง เซียน รัฐมนตรีพาณิชย์และอุตสาหกรรมของเวียดนาม เปิดเผยว่า สถานการณ์พลังงานโลกและภายในเวียดนาม ทั้งอุปสงค์และอุปทานกำลังตึงตัวอย่างหนัก เนื่องจากนานาชาติเร่งสำรองน้ำมัน ก่อนที่กลุ่มโอเปกจะลดเพดานการผลิตในเดือนนี้ (พ.ย.) และยังมีแนวโน้มที่กลุ่มประเทศตะวันตกจะยกระดับมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย นอกจากนี้ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อค่าเงินด่งของเวียดนามที่ตั้งแต่ต้นปีนี้อ่อนค่าลงไปมากกว่าร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่งผลให้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนของเวียดนาม ที่ต้องนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศต้องจ่ายแพงขึ้น ผู้นำเข้าเชื้อเพลิงบางรายประสบปัญหาในการเข้าถึงเงินกู้จากธนาคารเพื่อชำระค่าสินค้านำเข้า เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดของธนาคารได้
ปัจจุบัน เวียดนามมีปริมาณน้ำมันสำรองประมาณ 3,000,000 ลูกบาศก์เมตร เพียงพอต่อการใช้งานภายในประเทศถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน ส่วนโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ 2 แห่งในประเทศ มีกำลังการผลิตรวมกันประมาณ 330,000 บาร์เรลต่อวัน สามารถรองรับความต้องการของประชาชนได้ราวร้อยละ 70-80 แต่รัฐบาลเวียดนามยอมรับว่า ยังจำเป็นต้องนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม เปโตรลิเม็กซ์ (Petrolimex) บริษัทนำเข้าเชื้อเพลิงรายใหญ่ของเวียดนาม เปิดเผยว่า มีความต้องการใช้ปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น เนื่องจากการฟื้นตัวจากการระบาดใหญ่ ส่งผลทำให้เกิดภาวะขาดแคลนและราคาเพิ่มสูงขึ้น
สำนักข่าวแห่งชาติเวียดนาม หรือ วีเอ็นเอ รายงานว่าสถานีบริการเชื้อเพลิงหลายแห่งในกรุงฮานอย และเมืองโฮจิมินห์ ปิดให้บริการอย่างไม่มีกำหนด และระงับการขายน้ำมันเบนซิน บางแห่งมีการจำกัดการขายน้ำมันเบนซินให้แก่ลูกค้า
สำนักข่าวนิคเคอิ เอเชีย รายงานว่า สถานีบริการน้ำมันหลายแห่งในโฮจิมินห์ ทยอยปิดบริการตั้งแต่ในเดือนตุลาคม ขณะที่รัฐบาลเวียดนามขอให้โรงกลั่นน้ำมัน เพิ่มกำลังการผลิตให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในประเทศ และเร่งจัดส่งน้ำมันไปยังสถานีบริการด้วย
...
#น้ำมันเวียดนาม