หลังราคาน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ที่ปรับขึ้นอีก 40 สตางค์ต่อลิตร ในวันนี้ (5 พ.ย.) นับเป็นการปรับขึ้นต่อเนื่อง 2 วันติด นายบุญธรรม ศรีคำวงษ์ ผู้จัดการส่วนบริหารความเสี่ยงราคา บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า ราคาขายปลีกที่ปรับขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในมาเลเซีย ที่ทำให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์แพงขึ้นในระยะสั้น ซึ่งต่างจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่ไม่ได้ปรับขึ้นมากนัก
สำหรับขณะที่ปัจจัยที่มีผลต่อราคาน้ำมันดิบที่อาจสูงขึ้นในระยะต่อไปคือ การลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัส วันละ 1 ล้านบาร์เรล โดยเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน และมาตรการคว่ำบาตรของยุโรปที่จะงดนำเข้าน้ำมันทางเรือจากรัสเซีย ซึ่งจะมีผลในเดือนธันวาคมนี้
ก่อนหน้านี้ สถานีบริการน้ำมัน ได้ประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 2 วันต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้ (4 พ.ย.) ปรับขึ้นแล้ว 40 สตางค์ต่อลิตร และวันนี้ปรับขึ้นอีก 40 สตางค์ต่อลิตร รวม 2 วันปรับขึ้น 80 สตางค์ทำให้ราคาน้ำมันวันนี้ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลโดยไม่รวมภาษีท้องถิ่น แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ลิตรละ 36.15 บาท แก๊สโซฮอล์ อี20 อยู่ที่ 35.04 บาท
สำหรับราคาน้ำมันดีเซลขายปลีก ปัจจุบันยังคงอยู่ที่ลิตรละ 35 บาท ซึ่งทางคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง อยู่ระหว่างสรุปแนวทางรับมือ หากกลับมาจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ซึ่งจะหมดมาตรการลดภาษี 5 บาทต่อลิตรวันที่ 20 พ.ย.นี้ จะมีผลให้ต้องใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาชดเชยสูงขึ้น
#ราคาน้ำมันไทย