บีบีซี รายงานว่า เพียงแค่ 4 วัน หลังจากรัสเซียประกาศถอนตัวจากข้อตกลงให้ยูเครนส่งออกข้าวเปลือกทางเรือผ่านทะเลดำเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว กล่าวหายูเครนใช้เส้นทางเรือนั้นลอบโจมตีกองเรือรัสเซียในอ่าวไครเมีย ประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกันของตุรกี เปิดเผยหลังรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียกับรัฐมนตรีกลาโหมตุรกีพูดคุยทางโทรศัพท์ในวันนี้ว่า รัสเซียเปลี่ยนท่าทีในเรื่องนี้ใหม่ ยอมให้ข้อตกลงให้ยูเครนขนส่งสินค้าทางเรือผ่านทะเลดำ เดินหน้าต่อไปจนกว่าจะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ ระบุว่า การขนส่งข้าวเปลือกทางเรือจากยูเครนไปสู่ตลาดโลกจะเดินหน้าต่อไป
สอดคล้องกับนายอิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ซึ่งเปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ของทางการรัสเซียว่า รัสเซียได้รับหนังสือยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรจากรัฐบาลยูเครนว่า ยูเครนจะไม่ลักลอบใช้เส้นทางเดินเรือในทะเลดำเพื่อใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตีเรือของรัสเซีย โดยรัสเซียถือว่า การที่ยูเครนให้คำมั่นเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นหลักฐานเพียงพอสำหรับการพิจารณาให้ข้อตกลงนี้เดินหน้าต่อไป
ด้านราคาสัญญาข้าวสาลีและข้าวโพดปรับตัวลดลงอย่างหนักในวันนี้ หลังรัสเซียประกาศให้ความร่วมมือในการส่งออกธัญพืชของยูเครนอีกครั้ง ราคาสัญญาล่วงหน้าข้าวสาลีที่มีการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ดิ่งลง ร้อยละ6 ขณะที่ราคาสัญญาข้าวโพดร่วงลงร้อยละ 2
ก่อนหน้านี้ แม้ว่ารัสเซียประกาศถอนตัวจากข้อตกลงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่สหประชาชาติ(ยูเอ็น) ตุรกีและยูเครนยังคงส่งเรือแล่นไปยังทะเลดำเรื่อยมา แต่ทั้งรัสเซียและยูเครนยังไม่มีการทำข้อตกลงกันใหม่ว่า หลังสิ้นสุดข้อตกลงในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้แล้ว ทั้งสองฝ่ายจะต่ออายุข้อตกลงนี้ต่อไปหรือไม่ หลังลงนามในข้อตกลงในเดือนกรกฎาคม
ด้านยูเอ็น ระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม มีการขนส่งสินค้าการเกษตรทางเรือจากยูเครนกว่า 400 เที่ยว ลำเลียงข้าวเปลือก น้ำมันพืชและถั่วเหลืองรวม 9.8 ล้านตันสู่ตลาดโลก
#ตุรกี
#รัสเซียให้ยูเครนส่งออก