*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา08.30น.*

+++ตั้งแต่วันนี้ 1 เม.ย. แนวทางมาตรการการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร มีผลบังคับใช้ หลังจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบแนวทางการดูแลช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจตกต่ำและภัยธรรมชาติ ในส่วนของกระทรวงการคลัง ดำเนินการผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ใน 3 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการปลดเปลื้องหนี้สิน กลุ่มเป้าหมายเป็นเกษตรกรรายย่อยที่ไม่มีศักยภาพหรือมีเหตุผิดปกติ เช่น เสียชีวิต ทุพพลภาพ เจ็บป่วยเรื้อรัง และ มีปัญหาสุขภาพจนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ จำนวนประมาณ 2.8 หมื่นราย หนี้สินจำนวนประมาณ 4 พันล้านบาท 2.โครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับเกษตรกรรายย่อยที่มีศักยภาพต่ำจำนวน 3.4 แสนราย วงหนี้ประมาณ 4.8 หมื่นล้านบาท โดย ธ.ก.ส.จะให้เกษตรกรกลุ่มนี้ไม่ต้องชำระเงินต้นเป็นระยะเวลา 3 ปี รวมถึงให้ชำระเงินต้นตามงวดหรือระยะเวลาที่ตกลงกันแต่ไม่เกิน 10 ปี เว้นแต่มีความจำเป็นอาจ กำหนดให้ชำระไม่เกิน 15 ปี และพร้อมทั้งให้ดำเนินการฟื้นฟูการประกอบอาชีพเงินกู้ ต่อรายไม่เกิน 5 หมื่นบาท วงเงินสินเชื่อรวม 1.5 หมื่นล้านบาท โดยคิดดอกเบี้ยในอัตราปกติของ ธ.ก.ส. และ 3.โครงการขยายระยะเวลาชำระหนี้ กลุ่มเป้าหมายเป็นเกษตรกรรายย่อยที่มีศักยภาพในการประกอบอาชีพ แต่ได้รับผลกระทบจากการงดทำนาปรังและราคายางพาราตกต่ำ จำนวน 4.5 แสนราย คิดเป็นมูลหนี้ 6.4 หมื่นล้านบาท โดยการขยายเวลาชำระหนี้จะพิจารณาขยายตามศักยภาพของเกษตรกรลูกค้า โดย ธ.ก.ส.คิดดอกเบี้ยในอัตราปกติของ ธ.ก.ส. ไม่คิดเบี้ยปรับ นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนสินเชื่อเพิ่มเติมให้แก่เกษตรกรลูกค้าเพื่อปลูกพืชอื่นทดแทน หรือประกอบอาชีพการเกษตรอย่างอื่น หรือประกอบอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ เงินกู้ต่อรายไม่เกิน 1 แสนบาท วงเงินสินเชื่อรวม 3.5 หมื่นล้านบาท โดยคิดดอกเบี้ยในอัตราปกติเช่นกัน  การช่วยเหลือดังกล่าวเริ่มได้ทันทีตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้เป็นต้นไป ซึ่งมีเกษตรกรที่จะได้รับประโยชน์เกือบ 1 ล้านราย การดำเนินการครั้งนี้รัฐบาลไม่ต้องใช้เงินงบประมาณไปชดเชยความเสียหายให้กับ ธ.ก.ส. เพราะธนาคารปล่อยสินเชื่อในอัตราปกติ และสามารถแบกรับภาระที่เกิดขึ้นไว้เองได้

+++พล.ต. สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า นายกฯได้มอบหมายให้นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หารือกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ถึงขั้นตอนการพิจารณาการแก้ไข พ.ร.บ.สลากฯ พ.ศ.2517 ว่า ต้องใช้เวลาในขั้นตอนของ สนช.นานเท่าใดการแก้ไขกฎหมายจะเสร็จสิ้นและมีผลบังคับใช้เมื่อใด เพราะหากพบว่าใช้เวลานานเกินกว่า 3 เดือน หรือเสร็จไม่ทันภายในเดือนมิ.ย.นี้ จะเป็นช่วงของการจัดสรรโควต้าใหม่จะใช้ อำนาจตามมาตรา 44 ดำเนินการ ได้ทันที รวมถึงปัญหาด้านธุรกิจการประมงเพื่อแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์

+++การลงทุนในตลาดหุ้นดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐฯ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ริชมอนด์ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่เร็วขึ้น ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,776.12 จุด ร่วงลง 200.19 จุด ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,900.88 จุด ลดลง 46.56 จุด  ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,067.89 จุด ลดลง 18.35 จุด

+++น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 1.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับลง 3 วันติด ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.18 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยเมื่อรวมตลอดทั้งเดือนมีนาคม น้ำมันสัญญาลอนดอน ดิ่งลงถึงร้อยละ 12

+++ขณะที่ ทองคำ  ขยับลงในกรอบแคบๆ โดยแรงกดดันส่วนใหญ่เกิดจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 1.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,183.10 ดอลลาร์

+++หลังจากที่ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ  รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รับผิดชอบด้านอาชญากรรมพิเศษ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา  เพื่อตรวจสอบกรณีบุกรุกที่ดินบริเวณป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเสียดอ้า, ป่าเขานกยูงและป่าเขาอ่างหิน ว่า พบรีสอร์ทเดอะโบนันซ่า เขาใหญ่ รุกล้ำพื้นที่เกินกว่าเอกสารสิทธิ เนื่องจากเดิมเมื่อปี 2519 มีการขอออกเอกสาร นส. 3 ก. 47 ไร่ ต่อมาปี 2549 มีการ นำ นส.3 ก. ไปขอออกโฉนด กระทั่งปัจจุบันพบการรุกล้ำเข้าไปใช้ประโยชน์กว่า 100 ไร่ โดยสร้างที่พัก, สนามกอล์ฟและสนามแข่งรถ นอกจากนี้ ยังพบมีการออกโฉนดทับทางเดินและทางน้ำสาธารณ ประโยชน์ด้วย หลังจากนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้ครอบครองนำหลักฐานเข้าชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ ที่สำคัญต้องตรวจสอบการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิด้วยว่าดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายหรือไม่

+++ด้าน พ.อ.สมหมาย บุษบา คณะทำงานด้านกฎหมายกองกำลังรักษาความสงบเรียบ ร้อย กองทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ทางกองทัพได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ รวมถึงมีการใช้พื้นที่จัดคอนเสิร์ตกลางแจ้งทำให้กระทบต่อระบบนิเวศ เชื่อว่าการดำเนินการตรวจสอบในพื้นที่ดังกล่าวไม่ยากเพราะสามารถนำเอกสารมาเปรียบเทียบมีการรุกล้ำจริงหรือไม่  พร้อมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนบทบาทของตัวเอง อย่างไรก็ตามใน อ.ปากช่องมีพื้นที่ป่าสงวนกว่า 1 แสนไร่ แต่มีเอกสารถือครองอยู่จำนวนไม่กี่ราย ๆ ละกว่า 1,000 ไร่

+++ขณะที่ น.ส.พัทธมน เตชะณรงค์  บุตรสาวนายไพวงษ์ เจ้าของรีสอร์ทฯ กล่าวว่า ยินดีให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบพื้นที่ทุกจุดเพื่อความโปร่งใส เบื้องต้นทราบเพียงในอดีตชาวบ้านนำ นส. 3 ก. มาขายให้กับบิดาก่อนที่จะมีการรวบรวมที่ดินเพื่อปรับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวครบวงจร ที่ผ่านมาไม่เคยมีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

+++หลายหน่วยงานเตรียมพร้อมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งเรื่องการเดินทาง การรณรงค์ลดอุบัติเหตุ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี  เป็นประธานในการแถลงข่าวโครงการสงกรานต์ปลอดภัยตายเป็นศูนย์โดยมี นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมด้วย นพ.แท้จริง กล่าวว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนมาตรการลดความสูญเสียทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2558 ทางมูลนิธิเมาไม่ขับได้มีหนังสือส่งไปยังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯขอให้พิจารณาและสั่งการ 3 มาตรการเร่งด่วนเพื่อลดอุบัติเหตุ 1.ขอให้นายกฯ ประกาศนโยบายเร่งด่วนเพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิตในช่วงสงกรานต์โดยการให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเข้มงวดตลอด 7 วันอันตรายใน 3 ความผิดหลักได้แก่ 1. เมาแล้วขี่จักรยานยนต์และซ้อนท้ายไม่สวมหมวกกันน็อกและการขับรถเร็ว  2. ขอให้นายกฯ สั่งการให้ทหารทั่วประเทศไทยมาเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจในการบังคับใช้กฎหมายทั้ง 3 เรื่อง 3.ขอให้นายกฯ ขอความร่วมมือไปยังผู้พิพากษาหัวหน้าศาลทั่วประเทศเพื่อขอให้พิจารณาผู้ที่เมาแล้วขับในช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 9-15 เม.ย. 2558 หากกระทำความผิดในวันดังกล่าวจะต้องให้โทษกักขังหรือจำคุกแบบไม่รอลงอาญา อย่างไรก็ตาม มูลนิธิเชื่อว่าจะช่วยลดสถิติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในช่วงสงกรานต์ได้โดยจากสถิติปี 2557 มีผู้เสียชีวิตทั่วประเทศถึง 300 กว่าราย และบาดเจ็บกว่า 2,000 ราย ทั้งนี้หากดำเนินการตามข้อเรียกร้องดังกล่าวได้จะลดอัตราการเสียชีวิตเหลือเพียง 150-200 รายเท่านั้น

+++การอพยพประชาชนในเยเมน สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงมัสกัต โอมาน ซึ่งครอบคลุมดูแลเยเมน ออกประกาศฉบับล่าสุดว่า ขณะนี้สถานการณ์การสู้รบในเยเมนยังไม่มีท่าทีที่จะยุติ และมีโอกาสทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ตลอดจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งหลายชาติต่างทยอยอพยพพลเมืองของตัวเองแล้ว สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ จึงเห็นสมควรให้คนไทยทุกคนในเยเมนอพยพออกจากเยเมนโดยเร็วที่สุด และขอความร่วมมือคนไทยในเยเมนทุกคนที่พร้อมอพยพออกจากเยเมน แจ้งชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ หรือช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ที่สามารถติดต่อได้ รวมทั้งสำเนาหนังสือเดินทางมายังอีเมล์ของสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ ที่ thaimct@omantel.net.om และ panida.got@gmail.com หรือหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน ที่หมายเลข (+968) 9649 4733 หรือ (+968) 9927 3440 แต่หากคนไทยรายใดยังยืนยันที่จะอยู่ในเยเมน ก็จะต้องยอมรับถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินของตัวเองอีกทั้งสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ ขอความร่วมมือจากคนไทยในเยเมนทุกคนที่มีโทรศัพท์มือถือ เปิดโทรศัพท์ตลอด 24 ชม. ทั้งนี้สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ ประสานข้อมูลดังกล่าวไปยังนายซ่าอา ทับทิมใหม่ ประธานนักเรียนไทยในเยเมน หมายเลขโทรศัพท์ +967 7129 01615 เพื่อช่วยประสานรวบรวมรายชื่อคนไทยในเยเมนที่ประสงค์อพยพออกจากเยเมนแล้วด้วยอีกทางหนึ่ง

+++พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุถึงแผนการอพยพคนไทยในเยเมน ว่า มีคนไทยที่อยู่ในเยเมนทั้งหมด 193 คนที่ส่วนใหญ่เป็นนักเรียน โดยได้เตรียมแผนไว้เป็นอย่างดี และมั่นใจว่าจะทำให้คนไทยได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ล่าสุด มีคนไทย จำนวน 6 แล้วที่ประสงค์เดินทางกลับไทย โดยในจำนวนนั้น 2 คน ได้เดินทางออกจากเยเมนพร้อมคณะของมาเลเซีย ขณะคนไทยที่เหลือ ได้ยืนยันว่าไม่ประสงค์เดินทางกลับเพราะอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยห่างการสู้รบ

+++วันที่ 1 เม.ย. เป็นวันที่ต่างชาติ เรียกว่า April Fool's Day ซึ่งก็คือ วันแห่งการโกหก เป็นวันที่ทุกคนสามารถแกล้งกันสนุกสนานด้วยการโกหก โดยไม่ถือโทษโกรธกัน

CR:แฟ้มภาพ