ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ ได้นั่งเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจความเสียหายทางอากาศ พร้อมทั้งไปเยือนศูนย์พักพิงชั่วคราวในจังหวัดมากินดาเนา ทางภาคใต้ของประเทศในวันนี้ หลังพายุโซนร้อนนัลแก พายุลูกที่ 14 ของปีนี้ พัดถล่มพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ รวมถึงเขตปกครองตนเองบังซาโมโร เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว (29 ตุลาคม 2565) ทำให้เกิดน้ำท่วม ดินสไลด์จากไหล่เขาลงมาทับบ้านเรือนที่อยู่บริเวณเนินเขา มีผู้เสียชีวิต 110 ราย บาดเจ็บกว่า 200 คน และสูญหายอีก 33 คน
นายมาร์กอส จูเนียร์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเร่งลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปแจกจ่ายให้กับประชาชนให้พื้นที่ประสบภัยให้เร็วยิ่งขึ้น พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นให้เตรียมความพร้อมให้ดียิ่งขึ้น เพื่อรับมือกับพายุโซนร้อนอีก 4 ลูกที่จะพัดถล่มฟิลิปปินส์ก่อนสิ้นปีนี้
ส่วนทิศทางของพายุนัลแกขณะนี้ มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ตอนใต้ของจีน หลังพัดถล่มฟิลิปปินส์ สินค้าเกษตรเสียหายหายคิดเป็นมูลค่า 22,000 ล้านดอลลาร์และระบบสาธารณูปโภคเสียหายคิดเป็นมูลค่า 13 ล้านดอลลาร์ นับเป็นพายุที่สร้างความเสียหายรุนแรงลูกที่ 2 ของปีนี้ ต่อจากพายุโซนร้อนเมกี ซึ่งพัดถล่มฟิลิปปินส์ในเดือนเมษายน มีคนเสียชีวิต 214 ราย
ฟิลิปปินส์ เป็นประเทศที่มีเกาะกว่า 7,600 แห่ง แต่ละปีจะมีพายุ 20 ลูก ทั้งพายุไต้ฝุ่นและพายุโซนร้อน ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ มีน้ำท่วมและดินสไลด์ โดยเฉพาะพายุโซนร้อน ที่เพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทั่วโลก
#ฟิลิปปินส์
#พายุนัลแก
#ตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัย