นายกฯสหราชอาณาจักร มีแผนระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศอีก 2 ปี

          เดอะเทเลกราฟ สื่อในสหราชอาณาจักรรายงานว่า นายกรัฐมนตรี ริชี ซูนัค แห่งสหราชอาณาจักรกำลังพิจารณาระงับงบประมาณช่วยเหลือต่างประเทศเป็นเวลาต่อไปอีก 2 ปี

          ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรมีการตั้งวงเงินการใช้จ่ายช่วยเหลือต่างประเทศไว้ที่ร้อยละ 0.5 ของรายได้ประชาชาติ แต่เมื่อ 2 ปีที่แล้วรัฐบาลตัดเงินช่วยเหลือต่างประเทศ เนื่องจากประเทศประสบปัญหาการเงินจากการระบาดของโควิด-19 ในช่วงเวลานั้น นายซูนัคเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เขาเปิดเผยว่า งบประมาณช่วยเหลือต่างประเทศกลับมาเป็นอยู่ที่ระดับร้อยละ 0.7 ภายในปี 2567-2568 แต่ตามรายงานของเทเลกราฟ ระบุว่ากำลังมีการพิจารณาขยายเวลาลดการใช้จ่ายช่วยเหลือต่างประเทศต่อไปอีก 2 ปีเป็นปี 2569-2570 พร้อมกำหนดขอบเขตและทางเลือกเพื่อควบคุมวงเงินช่วยเหลือต่างประเทศ รวมถึงการควบคุมอัตราเงินเฟ้อเป็นเวลา 3 ปี

          รายงานฉบับนี้ยังมีขึ้นในขณะที่รัฐบาลร่างมาตรการลดการใช้จ่ายและยกเลิกการลดหย่อนภาษี เนื่องจากต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านครัวเรือนสูงขึ้น รัฐบาลเผชิญแรงกดดันให้เพิ่มความช่วยเหลือครัวเรือนที่ประสบปัญหาทางการเงิน เมื่อครั้งที่ นายซูนัค รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อต้นสัปดาห์นี้ เขากล่าวว่าสหราชอาณาจักรกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรงและผลกระทบจากวิกฤตโควิด โดยให้สัญญาว่ารัฐบาลของเขาจะทำงานอย่างเป็นมืออาชีพ มีเกียรติภูมิ และตรวจสอบได้

          สหราชอาณาจักรกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ธนาคารกลางของประเทศพยายามคุมอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับตัวเลขสองหลัก ประชาชนเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นและมีรายได้ที่แท้จริงลดลง ทั้งต้องฟื้นฟูความน่าเชื่อถือทางการเงินในระดับนานาชาติ หลังจากที่อดีตนายกรัฐมนตรี ลิซ ทรัสส์ ออกนโยบายลดภาษีโดยไม่มีงบประมาณสนับสนุน และการอุดหนุนราคาพลังงานที่ต้องใช้งบประมาณสูง จนส่งผลกระทบต่อตลาดพันธบัตร

          ผู้นำคนใหม่ของสหราชอาณาจักร มีกำหนดแถลงงบประมาณต่อรัฐสภา ในวันที่ 31 ตุลาคม นี้ ซึ่งจะครอบคลุมถึงการลดการใช้จ่ายของภาครัฐและเพิ่มภาษี เพื่อสร้างสมดุลให้กับงบประมาณรัฐ พร้อมสนับสนุนความเป็นอิสระของธนาคารกลางของประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้เขากล่าวว่า รัฐบาลต้องออกนโยบายที่สอดคล้องกับธนาคารกลางเพื่อคุมภาวะเงินเฟ้อ

….

#เศรษฐกิจสหราชอาณาจักร