คลัง คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวร้อยละ 3.4 และปีหน้าร้อยละ 3.8 ท่องเที่ยวฟื้น-ส่งออกชะลอตัว

29 ตุลาคม 2565, 06:59น.


          นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงภาพรวมเศรษฐกิจไทย หรือ GDP ปี 2565 โดยคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.4 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.9 ถึงร้อยละ 3.9) ลดลงจากก่อนหน้าที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตร้อยละ 3.5 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชนและภาคการท่องเที่ยว หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง และการผ่อนคลายมาตรการเดินทางระหว่างประเทศ คาดว่าตลอดทั้งปี 2565 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10,200,000 คน ส่งผลให้รายได้ของแรงงานและภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องขยายตัวสูงขึ้น



          ประกอบกับรัฐบาลได้ดำเนินมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศหลายมาตรการ อาทิ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ และ โครงการคนละครึ่ง ซึ่งมีส่วนสนับสนุนอุปสงค์ภายในประเทศและลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน รวมทั้งเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยคาดว่าการบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวร้อยละ 7.9 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 7.4 ถึงร้อยละ 8.4)



          ขณะที่การส่งออกสินค้าในปี 2565 ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 8.1 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 7.6  ถึงร้อยละ 8.6) ส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น โดยคาดว่าการลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัวร้อยละ 5.1 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.6 ถึงร้อยละ 5.6)



          ด้านเสถียรภาพภายในประเทศ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 6.2 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 5.7 ถึงร้อยละ 6.7) จากสถานการณ์ราคาพลังงานและปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่ทยอยคลี่คลาย อีกทั้งภาครัฐยังได้ดำเนินมาตรการดูแลค่าครองชีพให้แก่ภาคประชาชน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศ คาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะขาดดุล -13,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น ลบร้อยละ 2.7 ของ GDP (ช่วงคาดการณ์ที่ลบร้อยละ 3.2 ถึงลบร้อยละ 2.2 ของ GDP) จากการนำเข้า สินค้าที่เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ



          สำหรับปี 2566 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 3.8 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.8 ถึงร้อยละ 4.8) ได้แรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวจากภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และอเมริกา โดยคาดว่า ปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเข้ามา 21,500,000 คน ขยายตัวร้อยละ 109 ต่อปี ส่งผลให้รายได้จากภาคการท่องเที่ยว และธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องเพิ่มสูงขึ้น สนับสนุนให้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 3.2 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.2 ถึงร้อยละ 4.2) ขณะที่การส่งออกสินค้ามีแนวโน้มชะลอลงตามอุปสงค์ในตลาดโลกและเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า โดยคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.5 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ ร้อยละ 1.5 ถึงร้อยละ 3.5) รวมถึงการลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัวร้อยละ 3.7 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.7 ถึงร้อยละ 4.7) จากการลงทุนในเครื่องมือเครื่องจักรและการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น



          อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ร้อยละ 2.9 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 1.9 ถึงร้อยละ 3.9) ปรับลดลงตามราคาพลังงาน ขณะที่ เสถียรภาพภายนอกประเทศ คาดว่า ดุลบัญชีเดินสะพัดจะกลับมาเกินดุล 5,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 1.1 ของ GDP (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 0.1 ถึงร้อยละ 2.1 ของ GDP)



          ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดมีทั้งปัจจัยสนับสนุน อาทิ ภาคการท่องเที่ยวที่มีโอกาสฟื้นตัวได้สูงกว่าที่คาดการณ์ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่อาจเข้ามาได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ ตามแนวทางการเปิดประเทศและผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทาง รวมทั้งนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย และปัจจัยเสี่ยง อาทิ การดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของประเทศคู่ค้าหลัก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ที่มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลังจากที่เผชิญกับสถานการณ์เงินเฟ้อที่สูงขึ้นต่อเนื่อง นำไปสู่การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์โลกในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่นคงด้านพลังงานและด้านอาหาร และกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของโลก



...



#เศรษฐกิจไทย



กระทรวงการคลัง

ข่าวทั้งหมด

X