สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)เสร็จสิ้นการประชุมนโยบายดอกเบี้ย ในวันนี้ มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ต่ำสุดคือ ลบร้อยละ 0.1 ต่อไป ทั้งให้คงอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ร้อยละ 0 เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจปัจจุบัน ซึ่งค่าครองชีพสูง สินค้ามีราคาแพง และเงินเยนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ นับว่าสวนทางกับนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก ซึ่งต่างปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
ขณะเดียวกัน BOJ จะเดินหน้าโครงการรับซื้อพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ซึ่งกำหนดอัตราผลตอบแทนคงที่ไว้ที่ร้อยละ 0.25 โดย BOJ จะรับซื้อพันธบัตรรัฐบาลทุกวันทำการธนาคาร เพื่อไม่ให้ผลตอบแทนของพันธบัตรสูงเกินเพดานที่กำหนดไว้ อีกทั้งสอดคล้องกับมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินของ BOJ
นอกจากนี้ BOJ ยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่นในปีงบประมาณ 2565 ซึ่งจะดำเนินไปจนถึงเดือนมีนาคมปีหน้ามาอยู่ที่ร้อยละ 2.9 จากเดิมร้อยละ 2.3 โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ต้นทุนการนำเข้าพลังงาน ตลอดถึงวัตถุดิบและสินค้าอื่นๆมีราคาแพงขึ้น นับเป็นอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงสุดในรอบ 41 ปี พร้อมปรับลดตัวเลขคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในปีนี้มาอยู่ที่ร้อยละ 2.0 จากร้อยละ 2.4
ที่ผ่านมา เงินเฟ้อของญี่ปุ่นสูงเกินเป้าที่ร้อยละ 2 มากว่าครึ่งปีแล้วในปีนี้ โดยดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดภาพรวมของเงินเฟ้อทั่วประเทศ ขยับขึ้นมาที่ร้อยละ 3.4 ในเดือนตุลาคม นับเป็นการเพิ่มสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี สำหรับเงินเยนซื้อขายที่ 146 เยนต่อดอลลาร์ก่อน BOJ แถลงมติการประชุมเรื่องอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ ก่อนหน้านี้ เงินเยนร่วงมาที่ 152 เยนต่อดอลลาร์ หรือต่ำสุดในรอบกว่า 30 ปีเมื่อต้นเดือนนี้
#ธนาคารกลางญี่ปุ่น
#นโยบายดอกเบี้ยต่ำ
#เงินเฟ้อ