ไทย-ลาว เปิดประตูการค้า เชื่อมความสัมพันธ์ ผ่านสะพานมิตรภาพแห่งที่ 5 จ.บึงกาฬ-แขวงบอลิคำไซ

28 ตุลาคม 2565, 13:01น.


          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมด้วยนายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์ (Groundbreaking Ceremony) โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) จะทำให้เกิดการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจบริเวณด่านชายแดนฝั่ง จ.บึงกาฬ และชายแดนฝั่งแขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่ง “ประตูการค้า” ที่สำคัญ ที่จะช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไทยกับ สปป. ลาว นายกฯ เชื่อมั่นว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จตามกรอบเวลาเพื่อเป็นของขวัญสำคัญให้ชาวไทยและชาวลาวในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ในปี ค.ศ. 2025 (พ.ศ. 2568)



                นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกฯฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยสาระสำคัญจากคำกล่าวนายกฯว่า โครงการนี้มีความสำคัญ เพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างทั้งสองประเทศ และเป็นความคืบหน้าสำคัญจากการหารือของนายกฯทั้งสองประเทศ เมื่อนายกฯสปป. ลาว เยือนไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อต้นเดือนมิ.ย.65 สะท้อนความสัมพันธ์ที่ดี เป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกันในทุกระดับ มีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันเสมอมา



          พิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 5 เป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพ ความภาคภูมิใจของทั้งสองประเทศที่ร่วมกันพัฒนา และส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างกันมาโดยตลอด รวมถึงเป็นแบบอย่างความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม ภายหลังจากที่ทั้งสองประเทศได้ยกระดับความสัมพันธ์เป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน”



          โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 5 ถือเป็นโครงการยุทธศาสตร์ที่สำคัญของรัฐบาลไทย ในการเชื่อมต่อ สปป.ลาว และภูมิภาค รวมถึงยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของ สปป. ลาว ที่จะพัฒนาประเทศให้เป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญของภูมิภาค            นายกฯ กล่าวว่า สะพานแห่งนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเดินทางไปมาหาสู่กัน เพิ่มทางเลือกในการคมนาคมขนส่งระหว่างไทย กับ สปป. ลาว ตลอดจนช่วยส่งเสริมความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคระหว่างไทย-ลาว-เวียดนามบนเส้นทางหมายเลข 8 รวมถึงสามารถเชื่อมต่อไปยังจีนได้สะดวกมากขึ้น ทำให้การค้าขายในภูมิภาคคล่องตัวและเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น และในการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิด-19 สะพานแห่งนี้จะช่วยรองรับปริมาณการค้าระหว่างประเทศที่จะเพิ่มขึ้นและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของไทยและตอนกลางของ สปป.ลาว โดยเฉพาะระหว่างจังหวัดบึงกาฬ และแขวงบอลิคำไซ จะทำให้เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศเชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่นมากยิ่งขึ้น เกิดการพัฒนาในพื้นที่และการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชนในทั้งสองฝั่ง



#สะพานมิตรภาพไทยลาว



CR:ไทยคู่ฟ้า,รัฐบาลไทย

ข่าวทั้งหมด

X