Center for Medical Genomics ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี รายงานสถานการณ์โควิด-19 โดยระบุว่า ข่าวดี! องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงอัพเดทสถานการณ์การระบาดของโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย XBB และ BQ.1
ดร.มาเรีย ฟาน เคอร์คอฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคของภารกิจโควิด-19 องค์การอนามัยโลก เปิดเผยรายละเอียด เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 65
-WHO และภาคีทั่วโลกได้เฝ้าติดตามโอไมครอนกลายพันธุ์สายพันธุ์ย่อยมากกว่า 300 สายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างใกล้ชิด พบว่า กว่าร้อยละ 80 ของตัวอย่างส่งมาถอดรหัสพันธุกรรมที่ห้องปฏิบัติการทั่วโลกยังคงเป็นโอไมครอนสายพันธุ์ BA.5
-จากการถอดรหัสพันธุกรรมโอไมครอนทั่วโลก WHO และเครือข่ายพบโอไมครอนสองสายพันธุ์ย่อย “XBB” และ “BQ.1” มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage) เหนือกว่าโอไมครอนทุกสายพันธุ์ในปัจจุบัน โดยไวรัสสองสายพันธุ์ย่อยดังกล่าวยังคงมีการแพร่ระบาดในระดับต่ำ (low level of circulation) คือ เพิ่มจำนวนอย่างช้าๆเมื่อเทียบกับโอไมครอน BA.5
-โอไมครอน XBB เป็นสายพันธุ์ลูกผสม (recombinant) ระหว่าง BA.2.10.1 และ BA.2.75 ขณะที่ โอไมครอน BQ.1 เป็นเหลนของ BA.5
-เป็นที่น่ายินดีที่ทั่วโลกยังไม่พบผู้ติดเชื้อโอไมครอน XBB หรือ BQ.1 ที่มีอาการรุนแรงต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นหรือแตกต่างไปจากโอไมครอนสายพันธุ์ดั้งเดิม เช่น BA.1,BA.2,BA.4 และ BA.5 อย่างมีนัยสำคัญ
-แต่ WHO และเครือข่ายทั่วโลกไม่ได้ประมาท ยังคงเฝ้าติดตามการแพร่ระบาดของโอไมครอนทุกสายพันธุ์ย่อยอย่างใกล้ชิดต่อไป
-ขอเน้นย้ำว่าการตรวจวินิจฉัยด้วย ATK, PCR, และการถอดรหัสพันธุกรรมยังคงดำเนินการเป็นปกติและ
-วัคซีนยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดิมในการป้องกันการติดเชื้อที่เจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิต
ดร.อเล็กซ์ เซลบี้(Alex Selby) นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษ คำนวณอัตราการเพิ่มจำนวนของโอไมครอนสายพันธุ์ย่อยต่างๆและจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวใน รพ. และเสียชีวิตในอังกฤษ คาดการณ์ (จากการคำนวณ) ว่าจนถึงปลายปีนี้ “ไม่น่าจะมีการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ (ในอังกฤษ)” จากโอไมครอน เพราะในขณะนี้ดูเหมือนสายพันธุ์ย่อยที่ก้าวร้าวที่สุด (BQ.1.1, XBB.1) มีการเพิ่มจำนวนอย่างช้าๆ ในขณะที่โอไมครอน BA.5 ลดจำนวนลงอย่างต่อเนื่อง
#โอไมครอนสายพันธุ์ย่อย
CR:ข้อมูล-ภาพ Center for Medical Genomics