ยื่นคำร้องขอผัดฟ้อง! หลังกลุ่มนักเที่ยวจีน ปฎิเสธเสพยาในผับย่านสาทร ส่วน 7 คนแรก ศาลสั่งปรับ จำคุก 1-2 เดือน

            การดำเนินคดีนักเที่ยวชาวจีน จัดปาร์ตี้เสพยาเสพติดภายในสถานบันเทิงอาคารจินหลิง, อาคาร LEELA และ อาคาร WIP WUP CAR WASH ถนนเจริญราษฎร์ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ

            เพจ ผู้พิทักษ์ รายงานว่า  พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าว สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ 104 คน ตรวจพบสารเสพติด 78 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ให้การรับสารภาพ 38 คน ซึ่งผู้ต้องหาที่ให้การปฏิเสธ พนักงานสอบสวนต้องทำสำนวนส่งฟ้องแก่อัยการ จึงต้องทำการผัดฟ้อง และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อประกอบสำนวนอีกครั้ง ส่วนข้อหาค้ายาเสพติด ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนว่าใครมีพฤติกรรมการจำหน่ายยาเสพติดหรือไม่

            เมื่อวานนี้ (27 ต.ค.65) พนักงานสอบสวน ส่งตัวผู้ต้องหาให้อัยการฟ้องด้วยวาจา 60-80 คน เเต่มีบางรายปฎิเสธ เหลือที่รับสารภาพเเละจะนำมาฟ้องวาจา 48 คน เเต่พอมาถึงศาลแขวงพระนครใต้แล้ว ผู้ต้องหาเปลี่ยนใจให้การปฏิเสธ เหลือรับสารภาพ สามารถยื่นฟ้องได้เพียงแค่ 7 คน 

            สำหรับผู้ต้องหาอีก 56 คน ซึ่งถูกจับกุมและให้การปฏิเสธในความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด จะมีการยื่นคำร้องขอผัดฟ้องในวันนี้(28 ต.ค.65)

            รายละเอียด ผู้ต้องหา 7 คน ที่สามารถยื่นฟ้องต่อศาลได้

-นักท่องเที่ยวชายชาวจีน 4 คน ชายชาวไทย 1 คนและหญิงชาวไทย 2 คน

-กรณีนักเที่ยวชายชาวจีน และ หญิงชาวไทย รวม 6 คน เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาเสพยา ผู้ต้องหารับสารภาพข้อหาเสพเมทแอมเฟตามีน ยาเสพติดประเภท 1,เสพคีตามีน ยาเสพติดประเภท 2 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 มาตรา 104, 162 โดยจำคุกคนละตั้งแต่ 1-2 เดือนและปรับตั้งแต่ 8,000 - 16,000 บาท จำเลยรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก1-2 เดือนและปรับ 4,000-8,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี

-ส่วนชายชาวไทยอีกราย ถูกจับกุมและรับสารภาพข้อหาเสพสารระเหยโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ศาลพิพากษาลงโทษตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 มาตรา 105, 163 และพ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ.2487 มาตรา 8 วรรค 17 ให้ปรับรวม 4,200 บาท จำเลยรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับจำนวน 2,100 บาท

          ขณะที่ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบรถทุกคันที่ตรวจยึดได้ว่าเป็นพาหนะที่มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบการเปลี่ยนมือ เนื่องจาก พบสัญญาซื้อขายในที่เกิดเหตุ รถยนต์ที่ตรวจพบส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล รถเช่า และรถรับจ้างรับส่งคนจีน ขณะเดียวกัน ยังไม่มีบุคคลใดติดต่อขอรถคืน ขณะที่การตรวจสอบการครอบครองพบเจ้าของ มีทั้งคนไทยและคนที่ต้องตรวจสอบ เนื่องจากมีชื่อระบุเป็นอักษรจีน แต่อาจจะเป็นคนไทยก็ได้

           นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบว่า สถานบันเทิงที่ถูกตรวจค้น มีความเชื่อมโยงกับผับชื่อดังย่านสุทธิสารหรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบชื่อเจ้าของผับที่แท้จริง

            สำหรับตู้เซฟ 6 หลัง ที่ตรวจยึดได้ในที่เกิดเหตุ เปิดได้แล้ว 1 ตู้ พบยาเสพติด แต่อีก 5 ตู้ยังไม่สามารถเปิดได้ ตามขั้นตอนแล้วจะต้องติดต่อเจ้าของหรือผู้ดูแลมาเปิดตู้เซฟให้ แต่เชื่อว่า ขณะนี้เจ้าของตู้เซฟไม่กล้ามาปรากฏตัวอย่างแน่นอน จึงได้ประสานบริษัทผู้ผลิตตู้เซฟทั้ง 5 ตู้ ให้นำช่างมาปลดล็อคและเปิดตู้เซฟด้วยขั้นตอนวิธีการต่างๆ คาดว่าต้องใช้เวลาอีกประมาณ 2-3 วัน ระหว่างการเปิดจะต้องมีพยานและคณะกรรมการมาร่วมติดตามการเปิดตู้เซฟทั้ง 5 ตู้ ซึ่งถูกเก็บรักษาไว้ในห้องควบคุมตัวผู้ต้องหาของสน.ยานนาวา โดยมีเจ้าหน้าที่ร้อยเวรและกล้องวงจรปิดจับภาพตลอดเวลา

#กลุ่มชาวจีนมั่วสุมเสพยา

#ผับย่านสาทร

CR:ผู้พิทักษ์