สมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา ยืนยันยังไม่ยุติการเคลื่อนไหวคัดค้านแนวทางการปฏิรูปของสปช.

หลังจากที่คณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ ( สปช.) ชุด นายไพบูลย์ นิติตะวัน ที่เป็นประธาน นำเสนอรายงานและแนวทางปฏิรูปพุทธศาสนา แต่ทำให้คณะสงฆ์ไม่พอใจ และนัดจัดกิจกรรมในวันนี้ แต่มหาเถรสมาคมให้ยกเลิกไปก่อนนั้น

พระเมธีธรรมจารย์ รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยและที่ปรึกษาสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา หรือ สนพ.  เปิดเผยว่า สนพ. จะยอมทำตามข้อเสนอของมติมหาเถรสมาคม หรือมส. ที่เป็นองค์กรปกครองสงฆ์สูงสุด ตามที่ มส.ประชุมร่วมกับฝ่ายรัฐบาลและต้องการให้ยุติการเจริญพระพุทธมนต์ในวันนี้ ซึ่งวางแผนไว้ว่าจะใช้พื้นที่บริเวณข้างทำเนียบรัฐบาลประตู 4 เนื่องจากลานพระบรมรูปทรงม้ามีงานกาชาด แต่ยืนยันว่า หากสปช.ยังยืนยันจะปฎิรูปศาสนาอีก จะออกมาเคลื่อนไหวโดยไม่ฟังคำคัดค้านผู้ใด นอกจากนี้ยังมีการตั้งคณะกรรมการติดตามการเคลื่อนไหวของสปช. เพราะพบว่า สปช.เตรียมจะผลักดันร่างพระราชบัญญัติสงฆ์ ฉบับใหม่ โดยประธานสปช.และประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เป็นผู้ร่วมมือกันโดยไม่ได้ฟังเสียงจากคณะสงฆ์เลย ทั้งที่ฝ่ายสงฆ์เองก็ได้มีการยื่นพระราชบัญญัติอุปถัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนาไปแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในชั้นกฤษฎีกาพิจารณา

นอกจากนี้ พระเมธีธรรมาจารย์ ยังระบุถึงข้อเสนอ 4 ข้อของชุดนายไพบูลย์ ด้วยว่า คณะสงฆ์รับไม่ได้ เพราะเป็นข้อเสนอของบุคคลเพียง 16 กลุ่มที่ไม่รู้ปัญหาแท้จริงและตั้งอยู่บนสมมุติฐานที่ผิดและไม่ได้รับฟังความเห็นสงฆ์ รวมทั้งยังมีการอภิปรายเชิงย่ำยีพุทธศาสนา ซึ่งมีเจตนาล้มล้างการปกครองสงฆ์ จึงต้องการให้ฝ่ายนิติบัญญัติถอนข้อเสนอและร่างพระราชบัญญัติสงฆ์ฉบับใหม่ รวมทั้งยุติบทบาทการปฏิรูปสงฆ์ หากมีเจตนาดีก็ขอให้ร่วมกับฝ่ายรัฐบาลและ มส. เพราะการปฎิรูปต้องได้รับความยินยอมจากทุกฝ่าย และต้องปฎิรูปที่โครงสร้างเป็นสำคัญ

ส่วนแนวทางการเคลื่อนไหวจากนี้ นอกจากจะตั้งคณะกรรมการแล้วยังมีการรณรงค์เชิงสัญลักษณ์ การโฆษณาป้ายต่อต้านรัฐบาล มีการจัดสัมมนาจากสงฆ์ เพื่อให้ข้อมูลศาสนา รวมทั้งการเคลื่อนไหวชุมนุมขององค์กรสงฆ์ต่างๆที่มีการแตกออกเป็นสิบกลุ่ม โดยจะมีองค์กรเครือข่ายชาวพุทธเป็นแกนเคลื่อนไหวหลักและพร้อมจะเคลื่อนไหวทันที หากมีเหตุการณ์กระทบจิตใจอีก พร้อมระบุว่าการเจริญพระพุทธมนต์เป็นแค่สัญญาณเริ่มต้นในการพิทักษ์ศาสนาเท่านั้น ยืนยันว่าไม่มีกลุ่มบุคคลใดหรือวัดใดหนุนหลัง โดยสนพ.และองค์กรเครือข่ายชาวพุทธมีความต้องการแค่การปกป้องศาสนาอย่างเป็นธรรม

ด้านนายเสถียร วิพรมหา รักษาการนายกสนพ. เรียกร้องให้รัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ปัญหาและรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายร่วมกัน ทั้งเรียกร้องให้สปช.ยุติบทบาทการทำงาน และขอให้สนับสนุนร่างพระราชบัญญัติอุปถัมภ์คุ้มครองพุทธศาสนาแทนร่างใหม่ของสงฆ์ที่สปช.จะผ่านออกมา ส่วนการเจริญพระพุทธมนต์นั้นต้องการแค่ชี้ให้เห็นว่าพระสงฆ์ต้องการความสงบและการบำรุงกิจการสงฆ์ด้วยตัวเอง ไม่ได้มีเจตนาอื่นใด พร้อมฝากถึงนายกรัฐมนตรีว่าควรจัดการกับพระพุทธอิสระและพระรูปอื่นๆทุกรูปให้เท่าเทียมกัน