แผนกู้เงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์การกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ภายใต้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ผ่อนผันให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2565 วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท ดังนี้
-แผนการกู้เงิน ส่วนที่ 1 การกู้ยืมในวงเงิน 30,000 ล้านบาท ตามแผนการบริหารหนี้สาธาณะ ประจำปีงบประมาณ 2566 ทยอยกู้ 2 ครั้ง
-ส่วนที่ 2 วงเงินกู้ส่วนที่เหลืออีก 120,000 ล้านบาท ทยอยกู้ 6 ครั้ง แบ่งเป็น
-แผนการใช้จ่ายเงินกู้ ส่วนที่ 1 วงเงิน 30,000 ล้านบาท ทยอยใช้จ่ายเงินกู้ (เบิกเงินกู้) ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 จนถึงกุมภาพันธ์ 2566 และส่วนที่ 2 วงเงิน 120,000 ล้านบาท ทยอยใช้เงินกู้ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2566 จนถึงกรกฎาคม 2566
-แผนการชำระหนี้ ภายใน 7 ปี ทยอยชำระหนี้คืนตั้งแต่สิงหาคม 2566 และชำระหนี้ครบถ้วรภายในเดือนตุลาคม 2572
-ส่วนที่ 1 การกู้ยืมวงเงิน 30,000 ล้านบาท ทยอยชำระหนี้ได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 และชำระหนี้ครบถ้วนภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568
-และส่วนที่ 2 การกู้ยืมวงเงิน 120,000 ล้านบาท ทยอยชำระหนี้ได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2568 และชำระหนี้ครบถ้วนภายในเดือนตุลาคม 2572
สำหรับ สถานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2565 มีสถานะติดลบ 125,690 ล้านบาท ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันยังมีวิกฤตด้านน้ำมันเชื้อเพลิงจากสงครามรัสเซียกับยูเครนไปถึง พ.ย. 65 -ก.พ.ปี 66 ซึ่งเข้าช่วงฤดูหนาว ทำให้ราคาน้ำมันโลกผันผวนและส่งผลกระทบกับราคาสินค้าอุปโภคและบริโภค โควิดและน้ำท่วม
กองทุนน้ำมันฯจึงยังมีความจำเป็นในการรักษาเสถียรภาพ ปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ มีรายจ่ายมากกว่ารายรับอยู่ ณ วันที่ 20 ตุลาคม 2565 มีรายจ่ายสุทธิ 222 ล้านบาทต่อวัน คิดเป็น 6,882 ล้านบาทต่อเดือน
#วิกฤตพลังงาน
#กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง