หลังจากที่เซอร์ เกรแฮม เบรดี ประธานคณะกรรมการ 1922 ของพรรคอนุรักษ์นิยม อังกฤษ ประกาศว่า นายริชี ซูนัค คือหัวหน้าพรรคคนใหม่ และจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร โดยปริยาย เนื่องจาก พรรคอนุรักษ์นิยม เป็นพรรครัฐบาลครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรในขณะนี้
สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า นายซูนัค ออกแถลงการณ์ครั้งแรกให้ความสำคัญเรื่องเสถียรภาพความมั่นคงและความสามัคคีในช่วงที่เผชิญกับสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างรุนแรง เพื่อนำพาพรรคและประเทศเดินไปด้วยกัน ยืนยันว่าจะทำงานด้วยความซื่อสัตย์เพื่อชาวสหราชอาณาจักรและขอยกย่องนางลิซ ทรัสส์ ที่อุทิศตนทำงานเพื่อประเทศและเป็นผู้นำในช่วงที่กำลังเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก
รายงานระบุว่า เมื่อนางทรัสส์ เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งสุดท้าย จะแถลงที่ด้านนอกบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิง ก่อนที่จะเดินทางไปที่พระราชวังบักกิงแฮมเพื่อเข้าเฝ้าพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เพื่อลาออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ขณะที่ นายซูนัค จะเข้าเฝ้าพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ในระหว่างนั้นเขาจะได้รับเชิญให้จัดตั้งรัฐบาลใหม่ และเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีก 2 ปีก่อนจะถึงการเลือกตั้งใหญ่ตามกำหนดการในอีก 2 ปีข้างหน้า จากนั้นเขาจะเดินทางไปที่ถนนดาวนิงเพื่อแถลงข่าวเวลาประมาณ 11.35 น.
อย่างไรก็ตาม การเข้าเฝ้าดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นในวันอังคารที่ 25 ต.ค.65 โดยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะเสด็จกลับจากพระตำหนัก แซนดริงแฮม ถึงกรุงลอนดอน ในช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 24 ต.ค.65 ตามเวลาท้องถิ่น แต่โฆษกของนางทรัสส์ ระบุว่า เธอจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปอีกอย่างน้อย 1 วัน และจะไม่มีการเปลี่ยนผ่านอำนาจในวันนี้
โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า เขามีแผนจะโทรหานายซูนัคเพื่อแสดงความยินดี หลังจากเข้าพบพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3
นายซูนัค จะเป็นนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรคนแรกที่มีเชื้อสายอินเดีย และเป็นชาวฮินดู ในวัย 42 ปี ทำให้เขาเป็นผู้นำอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองอังกฤษ ชาวอินเดียต่างแสดงความยินดี และเป็นช่วงที่ชาวฮินดูทั่วโลกเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งแสงไฟ Diwali Balipratipada และเป็นเหตุการณ์พิเศษในปีนี้ ขณะที่อินเดียเพิ่งฉลองการครบวาระ 75 ปีของการได้รับอิสรภาพจากการเป็นอาณานิคมของอังกฤษ
นักลงทุน คาดว่าด้วยประสบการณ์ของนายซูนัค ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีคลังอังกฤษ และอดีตนักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ หลังสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด จะทำให้เขาสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ซบเซา และเงินเฟ้อที่พุ่งสูงของอังกฤษ ขณะที่ ตลาดหุ้นลอนดอน พุ่งขึ้นขานรับเรื่องนี้ทันที
ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เตือนก่อนหน้านี้ว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะเผชิญภาวะถดถอยยาวนานกว่า 1 ปี โดยจะเข้าสู่ภาวะถดถอยตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปีนี้จนถึงสิ้นปีหน้า
#ริชีซูนัค
CR:BBC,Reuters