นายกฯ สำรวจผลกระทบน้ำท่วมสิงห์บุรี ย้ำเมื่อรู้ความเสียหาย ให้เยียวยาทันที

          การลงพื้นที่จ.สิงห์บุรี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ เดินทางไปที่วัดพิกุลทอง ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์น้ำและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่ง อ.ท่าช้าง เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น โดยมีบ้านเรือนได้รับผลกระทบ 3,611 ครัวเรือน ประชาชน 9,708 ราย 

          นายกฯ ให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัย บริเวณหมู่ที่ 3 ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง ที่ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำน้อยล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่และจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ล้นตลิ่งเข้าทุ่งวิหารขาวและทุ่งพิกุลทอง ประชาชนได้รับผลกระทบ จำนวน 5 หมู่บ้าน 1,194 ครัวเรือน 

         นายกฯ ลงเรือท้องแบน เยี่ยมบ้านเรือนที่ประสบอุทกภัย หมู่ที่ 3 ต.บางกระบือ อ.เมือง โดยระหว่างนั่งเรือ นายกฯได้โยน EM ball เพื่อช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศ ช่วยย่อยตะกอนให้กลายเป็นอาหารของสัตว์เล็ก ๆ และช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ชนิดดีในน้ำ ทำให้เกิดการย่อยสลายที่มากขึ้น และเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำ ทำให้สภาพของน้ำสมดุล โดยบ้านเรือนประชาชนบริเวณนี้ได้รับผลกระทบประมาณ 289 ครัวเรือน

          สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี ขณะนี้ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลงตามการระบายของเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งวางแผนเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาโดยเร็ว จังหวัดเตรียมแผนเร่งผันน้ำและระบายน้ำออกจากพื้นที่ ให้สัมพันธ์สอดคล้องกับระดับน้ำที่ลดลงของแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย นายกฯกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น ย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความสำคัญในการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนให้ทราบถึงขั้นตอนการให้ความช่วยเหลือ หากจังหวัดได้สำรวจความเสียหายด้านใดเรียบร้อยแล้ว ให้เร่งดำเนินการประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอและจังหวัด ไม่ต้องรอการสำรวจความเสียหายให้เสร็จสิ้นครบทุกด้าน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติโดยเร็ว

 

#น้ำท่วมสิงห์บุรี 

CR:รัฐบาลไทย