ทางการภูมิภาคเคอร์ซอน ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียออกประกาศให้ผู้อยู่อาศัยในเมืองเคอร์ซอน เมืองหลวงของภูมิภาคที่มีชื่อเดียวกัน เดินทางออกจากพื้นที่ในทันที เนื่องจากกองทัพยูเครนกำลังเร่งยึดคืนพื้นที่ มีการโจมตีพลเรือนอย่างหนัก
รัสเซียยึดครองเมืองหลวงของภูมิภาคเคอร์ซอนได้ตั้งแต่ในช่วงแรกๆ ของสงคราม และยึดครองส่วนอื่นๆ ของภูมิภาคในเดือนถัดมา โดยเป็น 1 ใน 4 ภูมิภาคที่ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศผนวกดินแดนเมื่อเดือนที่แล้ว (ก.ย.) และเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 เขาประกาศกฎอัยการศึกใน 4 ภูมิภาคที่ถูกฝ่ายยูเครนโจมตีอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียอพยพเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียและพลเรือนมากถึง 60,000 คนเดินทางออกจากพื้นที่ไปยังเมืองชายแดนรัสเซีย โดยระบุว่า เป็นการโยกย้ายถิ่นฐานอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเป็นไปตามความสมัครใจ แต่ทางการยูเครนและชาติตะวันตก กล่าวหาว่าทางการรัสเซียกำลังใช้ชาวเคอร์ซอนเป็นโล่ห์มนุษย์
ตั้งแต่ในวันศุกร์ (21 ต.ค.) กองกำลังยูเครนได้โจมตีฐานที่มั่นของรัสเซียทั่วภูมิภาคเคอร์ซอน โดยมุ่งเป้าไปที่เส้นทางเสริมกำลังที่เดินทางข้ามแม่น้ำนีเปอร์ และเตรียมพร้อมสำหรับการผลักดันครั้งสุดท้ายเพื่อยึดเมืองเคอร์ซอนกลับคืนมา นอกจากนี้ กองกำลังยูเครนยังประสบความสำเร็จในการขับไล่กองทัพยูเครนออกจาก 2 หมู่บ้านในเขตเบอรีสลาฟ
โดยเมื่อวานนี้ (22 ต.ค.) ชาวยูเครนในภาคกลางและตะวันตกของประเทศไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากการที่รัสเซียโจมตีโรงไฟฟ้า ระบบประปา และโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอื่น กองทัพอากาศของยูเครน เปิดเผยว่า รัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ โดยมีเป้าหมายที่โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในกรุงเคียฟ รวมถึง 6 จังหวัดทางภาคกลางและภาคตะวันตก และโอเดสซาที่อยู่ทางใต้ ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนเปิดเผยว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธไปแล้ว 36 ลูก แต่ส่วนใหญ่ถูกฝ่ายยูเครนยิงสกัดไว้ได้ และประณามว่า การโจมตีโครงสร้างพื้นฐานคือกลยุทธ์ของผู้ก่อการร้าย ซึ่งประชาคมโลกจะต้องหยุดความหวาดกลัวนี้ นับตั้งแต่ วันที่ 10 ตุลาคม จนถึงขณะนี้ ร้อยละ 30 ของโรงไฟฟ้ายูเครนถูกทำลายประชาชนประมาณ 1 ล้าน 4 แสนครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้
...
#รัสเซียยูเครน