ฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีลมกระโชกแรง ขณะที่ปริมาณน้ำที่เอ่อล้นท่วมผิวจราจรถนนเพชรเกษมสายหลักจากหน้าตลาดสดบางเนียง หมู่ 3 ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ซึ่งเป็นย่านแหล่งท่องเที่ยว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 ต.ค.65 ปริมาณน้ำสูงกว่า 60 เซนติเมตร จนถึงวันนี้ (20 ต.ค.65) สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงา (ปภ.พังงา) จะร่วมกับเทศบาลตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า นำเครื่องสูบน้ำขนาดกลางที่สามารถสูบน้ำได้ 28,000 ลิตรต่อนาทีมาเร่งสูบน้ำตลอดทั้งวันทั้งคืนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลด เนื่องจาก ฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่อง
นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ลงพื้นที่หมู่ 9 บ้านนากลาง ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ โดยให้ส่วนท้องถิ่นได้เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านตามแผนเผชิญเหตุที่เตรียมไว้ แต่หากนอกเหนือและเกินกำลังของพื้นที่แล้วให้รายงานสถานการณ์ไปยังระดับอำเภอและระดับจังหวัดโดยเร็วที่สุด เพื่อจะได้ระดมสรรพกำลังทั้งบุคลากร เครื่องจักร เครื่องมือ ออกให้ความช่วยเหลือชาวบ้านอย่างทันท่วงที และผู้นำชุมชนต้องมีความพร้อมอยู่เสมอและสามารถออกปฏิบัติหน้าที่ดูแลลูกบ้านได้ตลอดเวลาเมื่อเกิดเหตุขึ้นจนกว่าสถานการณ์พายุฝนจะคลี่คลายไป สำหรับโครงการแก้มลิงในพื้นที่จะมีการขุดลอกเพื่อให้สามารถรองรับน้ำฝนไว้ให้ได้มากที่สุด และจะทำการขุดลอกแหล่งกักเก็บน้ำอื่น ๆเพิ่มเติม เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ประโยชน์ต่อไป พบว่าบ้านเรือนบางหลังที่อยู่ตามทางน้ำไหล ชาวบ้านได้นำกระสอบทรายมาวางปิดกั้นหน้าบ้านของตนเองไว้แต่ก็ยังคงไหลเข้าท่วมได้บางส่วน ล่าสุดระดับน้ำลดลงแล้ว
ที่จ.สตูล สถานการณ์น้ำป่าที่กระจายเป็นวงกว้างได้ครอบคลุมในพื้นที่ 6 อำเภอ 15 ตำบล 86 หมู่บ้าน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนแล้วเบื้องต้น 1,918 ครัวเรือน ส่งผลให้มีพื้นที่การเกษตรประสบอุทกภัย รวม 51,733 ไร่ เกษตรกรได้รับผลกระทบ 3,875 รายและพื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 2,190 ไร่ ได้แก่ นาข้าว ไม้ผล พืชผัก ยางพารา มะพร้าว และปาล์มน้ำมัน (ข้อมูล วันที่ 19 ต.ค.65)
ชาวบ้านดาหลำ หมู่ที่ 5 ตำบลเขาขาว ยอมรับว่า น้ำปีนี้มากกว่าทุกครั้งได้เตรียมพร้อมรับมือน้ำไว้แล้วแต่ไม่แน่ใจว่าจะเอาอยู่หรือไม่ แต่หากน้ำยังอยู่แบบนี้นานๆ ก็ส่งผลต่อการทำมาหากินซึ่งขณะนี้ก็อยู่แบบพอเพียง แต่ถ้าน้ำท่วมนาน ๆ ก็ต้องขอพึ่งพาผู้นำในท้องที่ท้องถิ่นในการส่งข้าวปลาอาหารให้
ด้านจ.ภูเก็ต ล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น. ท่าอากาศยานภูเก็ต ได้อัพเดท เส้นทางสัญจรเข้าสู่ท่าอากาศยาน พบว่า ในขณะนี้ ทุกเส้นทางเข้าสู่ท่าอากาศยานภูเก็ตได้ตามปกติ แต่ยังมีบางเส้นทาง เช่น ถนนบายพาสขาออก อาจมีการปรับเปลี่ยนช่องทางการเดินรถ ทำให้รถชะลอตัวเป็นระยะ ส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการเดินทาง
สำหรับผู้ที่เดินทางจากป่าตองสามารถใช้เส้นทาง ดังนี้ กะตะ > กะรน > ห้าแยกฉลอง > จากนั้นสามารถเลือกใช้เส้นทางถนนเจ้าฟ้าตะวันออก หรือถนนเจ้าฟ้าตะวันตก อำเภอเมืองภูเก็ต > มุ่งหน้าไปยังถนนเทพกระษัตรี (ทางหลวงหมายเลข 402) > ผ่านอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร > ไปยังท่าอากาศยานภูเก็ต
โดยเส้นทางที่ควรหลีกเลี่ยง เส้นทางควนยักษ์ป่าตอง-กมลา (ทางหลวงหมายเลข 4030) เนื่องจากมีดินสไลด์และเสาไฟฟ้าโค่นล้ม ไม่สามารถสัญจรได้ และควรเผื่อเวลาเดินทาง 2-3 ชั่วโมง
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัยลักษณะอากาศ เรื่องพายุ "เนสาท" ฉบับที่ 13 โดยเมื่อเวลา16.00 น. มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 160 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองดองฮอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 18.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 108.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนืออย่างช้า ๆ
พายุนี้มีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง บริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในระยะต่อไป ทำให้ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีฝนเล็กน้อยบางแห่งเกิดขึ้นได้
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 20-22 ตุลาคม 2565 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมทะเลอันดามันตอนกลาง ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ส่วนบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย
สำหรับชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันตกให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 22 ตุลาคม
#ฝนตกหนัก
#เนสาท
ข่าวทั้งหมด