อังกฤษประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ย.ดีดกลับมาแตะ 10.1% อีกครั้งสูงสุดในรอบ 40 ปี

          สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษรายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 10.1% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ของรอยเตอร์คาดไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 10% เนื่องจากราคาอาหารและพลังงานปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ค่าครองชีพเพิ่มขึ้นในรอบ 40 ปี โดยเฉพาะราคาอาหารเพิ่มสูงสุดนับแต่ปี 2523 ทั้งราคาขนมปัง ธัญพืชเช่น ซีเรียล อาหารประเภทเนื้อและราคาผลิตภัณฑ์จากนมขยับขึ้นร้อยละ 14.5

          ตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษพุ่งขึ้น ในขณะที่วิกฤตค่าครองชีพสูงยังคงส่งผลกระทบต่อภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจก่อนที่จะถึงฤดูหนาว ขณะที่เมื่อเดือน ส.ค. อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษลดลงสู่ระดับ 9.9% จากระดับ 10.1% ในเดือนก.ค. หลังจากราคาเชื้อเพลิงชะลอตัวลง ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)เตือนว่าเงินเฟ้อของอังกฤษอาจจะแตะ 11% ในปีนี้

          ข้อมูลเงินเฟ้อที่มีการเปิดเผยในวันนี้จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายในระยะใกล้ของ BoE โดย BoE มีแผนที่จะขายพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษออกมาบางส่วนตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้เป็นต้นไป ขณะที่นักวิเคราะห์หลายคนคาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในเดือนพ.ย.นี้ เพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้ลงมาอยูที่เป้าหมายคือ 2%

          นอกจากนี้ ข้อมูลเงินเฟ้อในเดือนก.ย.ยังสะท้อนให้เห็นว่าวิกฤตการณ์ด้านเงินเฟ้อในอังกฤษทวีความรุนแรงมากขึ้น ในขณะที่อังกฤษกำลังเผชิญกับความยากลำบากท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน

          ก่อนหน้านี้ นายเจเรมี ฮันท์ รัฐมนตรีคลังคนใหม่ของอังกฤษตัดสินใจยกเลิกมาตรการปรับลดภาษีเกือบทั้งหมดที่นายควาซี ควาร์เต็ง อดีตรัฐมนตรีคลังได้ประกาศก่อนหน้านี้และได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินทั่วโลก พร้อมระบุว่า เข้าใจถึงภาคครัวเรือนทั่วประเทศกำลังต่อสู้กับราคาและค่าพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก อย่างไรก็ดีรัฐบาลนี้จะช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่สุดเป็นอันดับแรก พร้อมทั้งสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในวงกว้างและขับเคลื่อนการเติบโตในระยะยาวเพื่อที่จะช่วยเหลือทุกคน

#เงินเฟ้ออังกฤษ

#วิกฤตการเงินโลก