สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า การแถลงนโยบายประจำปีในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรฮ่องกงในวันนี้ ใช้เวลาแถลง 2 ชั่วโมง 45 นาที นายจอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง ประกาศให้ความสำคัญเรื่องการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางธุรกิจระดับโลกและเสมือนประตูทางเข้าไปยังประเทศจีน รวมถึงการจัดตั้งสำนักงานเสาะหาคนเก่ง (talent scouting office) ตั้งกองทุน 30,000 ล้านฮ่องกงจัดแคมเปญเชิญชวนธุรกิจต่างชาติให้เข้ามาประกอบกิจการในฮ่องกง และปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อให้การจ้างชาวต่างชาติในสาขาอาชีพต่างๆมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณาคนเก่งๆที่ฮ่องกงให้ความสำคัญคือ คนที่มีรายได้ต่อปี 2.5 ล้านฮ่องกง หรือสูงกว่านั้นและคนที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ 100 แห่งทั่วโลก อีกทั้งมีประสบการณ์การทำงานในสาขาอาชีพที่เกี่ยวข้อง
ก่อนหน้านี้ บรรดาคนเก่งๆชาวต่างชาติหลายหมื่นคนแห่อพยพออกจากฮ่องกงเนื่องจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยนายลี คาดว่า จำนวนแรงงานท้องถิ่นของฮ่องกงลดลงราว 140,000 คนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากบ่มเพาะและรักษาคนเก่งในท้องถิ่นแล้ว รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับเรื่องการชักชวนคนเก่งๆจากทั่วโลกเข้ามาในฮ่องกง
ในเรื่องความมั่นคง นายลี อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของฮ่องกง เข้ารับตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ประกาศจะเดินหน้าปราบปรามการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สร้างความแตกแยกในฮ่องกง พร้อมทั้งให้ความสำคัญเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังเข้าสู่ภาวะชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ ฮ่องกงยกเลิกมาตรการบังคับกักตัวสำหรับผู้โดยสารต่างชาติในเดือนที่แล้วจากเดิมฮ่องกงใช้วิธีกักตัวผู้โดยสารในโรงแรมที่เป็นศูนย์กักกันของรัฐนานถึง 21 วัน แต่ระยะนี้ยังมีผู้โดยสารเดินทางเข้าไปในฮ่องกงไม่มากนัก เนื่องจากชายแดนติดต่อกับจีนยังคงปิดตามนโยบายลดโรคโควิด-19 เหลือ 0 ของรัฐบาลจีน ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งหลายครั้งมีการใช้ความรุนแรงระหว่างการประท้วง ทำให้รัฐบาลฮ่องกงจับกุมแกนนำผู้ประท้วงตามกฎหมายความมั่นคงใหม่สำหรับฮ่องกงซึ่งรัฐบาลจีนประกาศใช้เมื่อปีที่แล้ว แกนนำหลายคนอยู่ระหว่างเข้ารับการพิจารณาคดีในศาล หรือหลบหนีไปต่างแดน
#ฮ่องกง
#แถลงนโยบายประจำปี
#เน้นดึงคนเก่งๆทั่วโลก