สหภาพแรงงานฝรั่งเศส เปิดเผยว่ามีผู้เข้าร่วมการชุมนุมประท้วงในหลายเมือง และมีคนทำงานที่หยุดงานประท้วงเพิ่มขึ้นในวันอังคาร (18 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเรียกร้องให้นายจ้างปรับขึ้นค่าแรงให้สอดคล้องกับภาวะเงินเฟ้อ
กระทรวงกิจการภายในเปิดเผยว่ามีการชุมนุมประท้วงเกิดขึ้นในหลายเมืองทั่วประเทศ จำนวนรวมกันประมาณ 107,000 คน โดยอยู่ในกรุงปารีสประมาณ 13,000 คน ซึ่งยังมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น เมื่อกลุ่มผู้ประท้วงที่เรียกตัวเองว่า "กลุ่มสีดำ" ที่มีการเคลื่อนไหวต่อต้านทุนนิยมเข้าร่วมการประท้วง และมีการพ่นกราฟฟิตี้ ทุบกระจกธนาคารและสำนักงานตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ BMW ทำให้มีผู้ประท้วงถูกตำรวจปราบจลาจลควบคุมตัว 11 คน และเจ้าหน้าที่ 9 นายได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับผู้ประท้วง
ส่วนที่เมืองอื่น ๆ มีผู้ที่ถูกจับกุมรวม 4 คน
กลุ่มสหภาพแรงงานจากอุตสาหกรรมโลหะ ที่ร่วมการชุมนุมประท้วงในสตาร์บวร์ก ยอมรับว่ากลุ่มมีความสบายใจที่ต้องมีการชุมนุมปิดถนน แต่หากไม่ทำเช่นนี้ ก็จะไม่มีใครรับฟังข้อเรียกร้องของพวกเขา
การประท้วงของกลุ่มแรงงานในฝรั่งเศส ในครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นจากคนงานในโรงกลั่นน้ำมันและคลังน้ำมันหลายแห่งที่ดำเนินการโดยโททาลเอนเนอร์ยี่ส์ (TotalEnergies) ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน ลงมติให้ขยายเวลาการหยุดงานประท้วงซึ่งขณะนี้อยู่ในสัปดาห์ที่ 3 ส่งผลกระทบต่อการจ่ายเชื้อเพลิงทั่วประเทศ โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคกลาง และที่กรุงปารีส
ส่วนกลุ่มคนงานในภาคพลังงานนิวเคลียร์ เตือนว่าพวกเขาอาจนัดหยุดงาน หรืออาจขัดขวางการบำรุงรักษา หรือการทำงานด้านความปลอดภัย ซึ่งทำให้ผู้ดำเนินการโครงข่ายไฟฟ้าและพลังงานของฝรั่งเศส เตือนว่าการเคลื่อนไหวทางสังคมใดๆ ก็ตามที่ขยายออกไปถึงสถานีพลังงานนิวเคลียร์จะมีผลกระทบร้ายแรงต่อการจัดหาไฟฟ้าในฤดูหนาวนี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส กล่าวว่า มีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 30 เครื่องจาก 56 เครื่องที่มีการทำงานอยู่ในปัจจุบัน
และยังมีผลสำรวจโดยกลุ่มองค์กรเอกชน ที่ชี้ว่า ชาวฝรั่งเศส จำนวน 1 ใน 3 จะเข้าร่วมการชุมนุมประท้วง หรือการหยุดงานในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าเพื่อเรียกร้องให้ขึ้นค่าแรง
...
#แรงงานฝรั่งเศส