สมาพันธ์แรงงานฝรั่งเศส (CGT)เปิดเผยว่า แรงงานฝรั่งเศสหยุดงานประท้วงทั่วประเทศในวันนี้(18 ตุลาคม 2565) เรียกร้องให้บริษัทนายจ้างปรับขึ้นค่าจ้างร้อยละ 10 ให้เหมาะสมกับค่าครองชีพในปัจจุบัน หลังเงินเฟ้อในเดือนกันยายนอยู่ที่ร้อยละ 5.6 สูงสุดในรอบหลายสิบปี เป็นปัญหาเร่งด่วนข้อหนึ่งที่รัฐบาลประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง จะต้องหาทางแก้ไข หลังชนะการเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศสมัยที่สองเมื่อเดือนพฤษภาคม
การประท้วงในครั้งนี้ ยืดเยื้อมาเป็นสัปดาห์ที่ 4 แล้วจะกระทบระบบคมนาคม เช่น รถไฟใต้ดินในกรุงปารีส รถไฟในประเทศ รถไฟระหว่างยุโรปของบริษัทยูโรสตาร์ รวมทั้งโรงเรียนและสถานที่ราชการอื่นๆ อีกทั้งกระทบธุรกิจของโรงกลั่นน้ำมันหลักๆของฝรั่งเศส เช่น อาจจะทำให้ปั๊มน้ำมันส่วนใหญ่ของฝรั่งเศสไม่มีน้ำมันสำหรับขายให้กับลูกค้า
ขณะเดียวกัน บรรดาแกนนำผู้ประท้วง เชื่อว่า แรงงานจะออกมาประท้วงจำนวนมากในวันนี้ หลังรัฐบาลขู่จะใช้มาตรการบังคับให้แรงงานกลับไปทำงานในโรงกลั่นน้ำมันหลักๆของประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าปั๊มน้ำมันต่างๆไม่ขาดแคลนน้ำมันสำหรับขายให้กับผู้ขับขี่ โดย CGT ขอให้แรงงานออกมาประท้วงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่า ก่อนหน้านี้ บริษัทโททาลเอนเนอร์ยี่ส์ บริษัทพลังงานรายใหญ่ของฝรั่งเศสตกลงกับสหภาพแรงงานกลุ่มอื่นๆว่าบริษัทจะยอมปรับขึ้นค่าจ้างร้อยละ 7 พร้อมโบนัสสำหรับแรงงานของบริษัทในวันศุกร์นี้
แต่ CGT ย้ำข้อเรียกร้องให้บริษัทปรับขึ้นค่าจ้างร้อยละ 10 อ้างเหตุผลเรื่องอัตราเงินเฟ้อสูงกระทบค่าครองชีพของแรงงาน อีกทั้งบริษัทพลังงานส่วนใหญ่ของฝรั่งเศสมีผลกำไรจำนวนมากจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์
ด้านบริษัทยูโรสตาร์ ระบุว่า บริษัทจะยกเลิกรถไฟบางขบวนระหว่างกรุงลอนดอนกับกรุงปารีส เนื่องจาก การประท้วงของแรงงานในกรุงปารีสในวันนี้
#ฝรั่งเศส
#ประท้วง