รัฐมนตรีกลาโหมจากสมาชิกนาโตกว่า 50 ประเทศ ซึ่งประชุมที่สำนักงานใหญ่ของนาโตในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม แถลงจุดยืนของนาโตเรื่องการจัดส่งระบบต้านขีปนาวุธไปมอบให้กับยูเครน พร้อมย้ำคำมั่นเรื่องการช่วยเหลือด้านความมั่นคงอย่างแข็งขัน และต่อเนื่องสำหรับยูเครน พร้อมระบุว่า การที่รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตียูเครนตลอด 2 วันที่ผ่านมายิ่งจะทำให้สมาชิกนาโตมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมากยิ่งขึ้นในการสนับสนุนแก่ยูเครน
พล.อ. ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งนั่งติดกับนายโอเล็กซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมของยูเครน แถลงเปิดประชุมด้วยการประณามรัฐบาลประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มทั่วประเทศยูเครนในช่วง 2 วันทำให้ มีคนเสียชีวิต 19 ราย บาดเจ็บกว่า 100 คน ระบบสาธารณูปโภคหลักๆของยูเครน เช่น ไฟฟ้าและประปาได้รับความเสียหาย สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในยูเครน
นางคริสติน แลมเบร็ค รัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนี ประกาศว่า ระบบต้านขีปนาวุธรุ่น IRIS-T ตัวแรกจากจำนวน 4 ตัวของเยอรมนีไปถึงยูเครนแล้ว ระบุว่าเป็นอาวุธสำคัญที่จะช่วยยูเครนในการป้องกันขีปนาวุธจากรัสเซีย
ด้านนายเรซนิคอฟ กล่าวว่า คนทั่วโลกได้เห็นถึงภัยคุกคามและความโหดร้ายในการบุกยูเครนของรัฐบาลประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย มีต้นเหตุจากความก้าวร้าว รุกรานเพื่อนบ้าน อีกทั้งไม่คำนึงถึงกฎกติกาทำสงครามด้วย แต่การที่รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีรัสเซียครั้งนี้ยิ่งจะทำให้ชาวยูเครน ตลอดถึงพันธมิตรจากทั่วโลก รวมถึงนาโต ยิ่งจะมีความเป็นน้ำหนึ่งใจและยืนหยัดเคียงข้างชาวยูเครน
ด้านนายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต กล่าวว่า เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของกองทัพรัสเซียหลายสัปดาห์หลังจากกองทัพยูเครนรุกคืบจนกระทั่งสามารถยึดดินแดนกลับคืนจากรัสเซียในบางพื้นที่ของยูเครน อีกทั้งคนในกองทัพรัสเซียเองเริ่มคิดถึงผลดีผลเสียจากปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ทำให้รัสเซียเลือกใช้วิธีการที่โหดร้ายกว่าเดิมคือ การยิงขีปนาวุธถล่มทั่วยูเครนในช่วง 2 วันเป้าหมายการโจมตีคือ ย่านชุมชนและระบบสาธารณูปโภคสำคัญๆ เสาไฟฟ้าหักโค่น ไฟฟ้าดับทั่วประเทศ
#นาโต
#ระบบต้านขีปนาวุธ
#การสู้รบในยูเครน