รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง รมว.คลัง ชี้แจงการเคลื่อนไหวของเงินเฟ้อทั่วไปที่ออกนอกกรอบเป้าหมาย 1-3% โดยคาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ ร้อยละ 3.9 สูงกว่ากรอบเป้าหมาย แม้ราคาพลังงานจะทยอยลดลงตามตลาดโลก แต่ยังอยู่ระดับสูง คาดว่า เงินเฟ้อหมวดพลังงานอยู่ที่ ร้อยละ 12.4 และหมวดอาหารสดร้อยละ 1.7 ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ย 12 เดือนข้างหน้าคาดว่าอยู่ที่ร้อยละ2.9 โดยสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมาร้อยละ 0.46 เนื่องจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นที่ร้อยละ3.8 ในปี 66 เอื้อให้ผู้ประกอบการสามารถส่งผ่านต้นทุนที่อยู่ระดับสูงในช่วงก่อนหน้าไปยังราคาสินค้าได้มากขึ้น
นอกจากนั้น กนง.ยังประเมินว่าเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่จุดสูงสุดในไตรมาส 3 ปี 65 และจะทยอยลดลงตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 65 ก่อนจะกลับเข้ากรอบเป้าหมายตั้งแต่ช่วงกลางปี 66 เป็นต้นไป ตามแรงกดดันต่าง ๆ ที่ลดลงทั้งราคาพลังงานและราคาอาหารสด เป็นต้น
โดยกนง.จะติดตามปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่นำไปสู่การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของอัตราเงินเฟ้อในระยะต่อไป เช่น ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ความผันผวนของราคาน้ำมัน และสินค้าโภคภัณฑ์โลก ปัญหาหยุดชะงักของฝั่งการผลิต และการส่งผ่านต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการไปยังเงินเฟ้อพื้นฐาน เป็นต้น
สำหรับจดหมายเปิดผนึก ของกนง. ยังระบุถึงการดูแลภาวะการเงินในช่วงต่อไปโดยเห็นว่า ควรมีมาตรการเฉพาะจุดและส่งเสริมการแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืนในกลุ่มเปราะบางอย่างต่อเนื่อง มาตรการการเงินและสินเชื่อจะช่วยกระจายสภาพคล่องและช่วยลดภาระหนี้ได้ ต้องมีการปรับโครงสร้างหนี้ เสริมสร้างเสถียรภาพระบบการเงินและไม่เป็นปัจจัยกระทบต่อการขยายตัวเศรษฐกิจไทย กนง.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ทำให้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากเป็นพิเศษมีความจำเป็นลดลง กนง.จึงปรับดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อให้กลับเข้าสู่ระดับที่เหมาะสมกับการขยายตัวเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพในระยะยาวตอไป
#เงินเฟ้อไทย
#แก้หนี้
อ่านฉบับเต็ม https://shorturl.asia/U1prV