อธิบดีกรมสุขภาพจิต ย้ำแม่คนก่อเหตุ ไม่ได้ถูกคุกคาม แต่มีคนกระทบด้านจิตใจเพิ่มขึ้นกว่า 200 คน

          การดูแลจิตใจเหตุการณ์รุนแรงพื้นที่หนองบัวลำภู พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า จากการเข้าไปดูแลสภาพจิตใจ ผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่จังหวัดหนองบัวลำภู จากเดิมในกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบวงใน ที่มีความเสี่ยงสูงสุด ได้แก่ ผู้สูญเสียทางตรง ผู้ได้รับบาดเจ็บ ผู้เห็นเหตุการณ์ และญาติที่ใกล้ชิดผู้สูญเสีย ก่อนหน้านี้ได้มีการประเมินพบว่า ผู้มีความเสี่ยงสูง 170 คน แต่เวลาผ่านไปเราได้มีการค้นพบและปรากฏผู้สูญเสียทางตรงเพิ่มขึ้นเป็น 260 คน แต่ไม่ได้มีข้อจำกัดในการดูแล มีหลายทีมงานและอาสาสมัครมาเยียวยา 

          นอกจากนี้ จะดูแลรายรอบออกไป เช่น อบต. กู้ภัย ครู ชุมชนรายรอบที่เกิดเหตุ โรงเรียนสองแห่งใกล้ที่เกิดเหตุ จะทำกลุ่มการประเมินและสังเกต ออกแบบการดูแลช่วยเหลือต่อเนื่องในระยะยาวในช่วง 2 สัปดาห์ถึง 3 เดือน ซึ่งหลังจาก 3 เดือนจะมีทะเบียนรายที่อาจมีอาการรุนแรงสูง ปัญหาจิตใจเรื้อรัง ส่วนที่มีการเดินทางโยกย้ายก็จะมีการดูแลส่งต่อ 

           กรณีที่มารดาผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีรายงานว่ามีปัญหาคุกคาม รุมเร้าครอบครัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งจากการให้การดูแลสภาพจิตใจของมารดาผู้ก่อเหตุ ทางมารดายืนยันว่า ไม่มีการคุกคาม เพื่อนบ้านยังดูแลกันดี แต่น่าสนใจคือการกระจายข่าวของสังคม บางครั้งจะเป็นปัญหาต่อการจัดการสถานการณ์ได้

          สำหรับผลการดูแลผู้บาดเจ็บที่อยู่ในโรงพยาบาล 7 ราย ขณะนี้พบว่าอาการดีขึ้นตามลำดับ โดยผู้บาดเจ็บมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น อย่างผู้ที่รักษาใน รพ.ศูนย์อุดรธานี 2 ราย อาการดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ โดยเด็กชายอายุ 3 ขวบที่อยู่ในไอซียูที่มีอาการไข้ วันนี้ไข้ลดลง การรับรู้ต่างๆ ดีขึ้น เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ก็รู้ตัวดี สามารถขยับแขนทั้ง 2 ข้างได้ตามคำบอก ส่วน รพ.หนองบัวลำภูอีก 5 ราย ซึ่งจำนวนนี้มีเด็กชาย 2 คน ก็มีข่าวดี โดยหนึ่งคนคือเด็กชายอายุ 3 ขวบสามารถหายใจเองได้ดี พูดคุยเป็นคำๆ ได้ เช่น "บ้าน"  "นม"  "หิว"  เป็นต้น  ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงที่เป็นปัญหา ก็เตรียมย้ายออกจากไอซียูได้ในเร็ววัน  ส่วนเด็กชายอีกรายอายุ 4 ขวบ ที่สมองบวมสองวันก่อน หลังผ่าตัดลดสมองบวมแล้วอาการก็ดีขึ้นเช่นกัน เช่นเดียวกับทุกรายอาการดีขึ้น 

#หนองบัวลำภู