รองอธิบดีกรมชลฯบินสำรวจพื้นที่ตอนบนลุ่มเจ้าพระยาน้ำเหนือเริ่มลดลง เฝ้าระวังคันกั้นน้ำพื้นที่ตอนกลาง

11 ตุลาคม 2565, 21:24น.


          นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รอง อธิบดีกรมชลประทาน และคณะบินเฮลิคอปเตอร์สำรวจสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและปริมาณน้ำ ขณะที่สถานการณ์น้ำทางด้านตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาระดับน้ำเริ่มทรงตัว หากปริมาณน้ำเริ่มลดระดับลงก็จะทำการปรับลดปริมาณการระบายของเขื่อนเจ้าพระยา 



          นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้เริ่มมีมวลอากาศเย็นเข้ามาปกคลุมทางด้านตอนบนของประเทศ ส่งผลทำให้ปริมาณฝนเริ่มลดลง เหลือเพียงตอนล่าง จึงทำให้แนวโน้มสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำปิงลดลงเหลืออยู่ประมาณ 900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนแม่น้ำน่านเนื่องจากมีแม่น้ำยมมาสมทบอยู่ในอัตราประมาณ 1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สถานการณ์น้ำก็เริ่มทรงตัว ซึ่งแม่น้ำปิง และแม่น้ำน่าน มวลน้ำไหลมารวมกันที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ อยู่ที่ ประมาณ 3,054 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที



          หากปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณลดลงทางกรมชลประทานก็จะทำการลดปริมาณการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาลงตามลำดับ แต่สิ่งสำคัญอยากจะให้พื้นที่ทางด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงไปตั้งแต่ จ.ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานครฯ ให้เฝ้าระวังคันกั้นน้ำที่เป็นคันชั่วคราวเพราะอาจจะมีคลื่นมากระทบและพังลงมาได้



           สำหรับการบินสำรวจในครั้งนี้เห็นได้ว่า ทางพื้นที่ของลุ่มแม่น้ำน้อย แม่น้ำเจ้าพระยาจะมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมหลายพื้นที่ เนื่องจากคันกั้นน้ำขาด ซึ่งจะเห็นได้ว่าขณะนี้ปริมาณน้ำในหลายพื้นที่เริ่มทรงตัวและลดระดับลงทางกรมชลประทานก็จะเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลให้ไวที่สุดโดยยังจะต้องขอความร่วมมือในทุกพื้นที่เฝ้าระวังตรวจตราคันกั้นน้ำต่างๆ



          นอกจากนี้ทางกรมชลประทานยังได้มีการระบายน้ำเข้าสู่ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในการเร่งระบายน้ำ ขณะนี้สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน อยู่ที่ 3,048 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

          ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 17.70 มีระดับน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 17.38 และเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ำผ่านเขื่อนอยู่ที่ 3,164 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลทำให้ที่สถานีวัดน้ำ C.3 บ้านบางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 2,737 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ในพื้นที่ประสบอุทกภัย อย่างในพื้นที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ยังคงใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก ต้องใช้เรือเป็นยานพาหนะในการสัญจรเข้าออกบ้านและชาวบ้านบางรายยังต้องมาอาศัยยังที่พักชั่วคราวริมถนน เนื่องจากบ้านที่อยู่อาศัยนั้นเป็นชั้นเดียว นอกจากนี้พบว่ายังมีน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งจนข้ามถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 311 ในหลายจุด



 



#น้ำท่วม65

ข่าวทั้งหมด

X