สถานการณ์น้ำในประเทศไทย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า คาดการณ์ว่าในช่วงหลังวันที่ 11 ต.ค. 65 แนวโน้มปริมาณฝนจะเริ่มลดลง โดยขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำต่าง ๆ เริ่มทรงตัว รวมถึงปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ ลดลง ปัจจุบันอ่างฯ ส่วนใหญ่เริ่มลดและงดระบายน้ำที่อาจจะส่งผลกระทบด้านท้ายน้ำ รวมถึงเพื่อเป็นการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง ตามนโยบายของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ยกเว้นอ่างฯ ที่มีปริมาณน้ำเกินความจุ เช่น เขื่อนอุบลรัตน์ จากคาดการณ์ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 35 แห่ง ทั่วประเทศ ณ วันที่ 1 พ.ย. 65 พบว่า จะมีปริมาณน้ำ รวม 59,511 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือคิดเป็น 84% ของความจุ ซึ่งมากกว่าปริมาณน้ำเมื่อปี 2564 อยู่เกือบ 6,000 ล้าน ลบ.ม. โดยในจำนวนนี้คิดเป็นปริมาณน้ำใช้การสำหรับใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ช่วงฤดูแล้ง ปี 65/66 ทั้งด้านอุปโภคบริโภค ด้านการเกษตร ด้านรักษาระบบนิเวศและด้านอุตสาหกรรม จำนวน 35,968 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 76% ของความจุ ทำให้ภาพรวมของฤดูแล้งในปีนี้ไม่น่าเป็นห่วงมากนัก โดยเฉพาะปริมาณน้ำใช้การใน 4 เขื่อนหลักเจ้าพระยา ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่คาดว่าจะมีปริมาณน้ำ รวม 14,118 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งมากกว่าปี 64 อยู่ถึง 6,448 ล้าน ลบ.ม.
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่บริเวณนอกเขตชลประทานและพื้นที่ที่ไม่มีแหล่งน้ำ โดยวันนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบต่อ (ร่าง) มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 65/66 จำนวน 10 มาตรการ ตามที่ สทนช. เสนอ และให้เสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบโดยเร็วก่อนเข้าสู่ฤดูแล้งในต้นเดือนหน้า พร้อมมอบหมายให้หน่วยงาน นำมาตรการไปจัดทำแผนปฏิบัติการในส่วนที่เกี่ยวข้องและจัดส่งให้ สทนช. เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนการดำเนินการตามมาตรการและติดตามประเมินผลต่อไป
#น้ำท่วม65