นายกฯเรียกประชุม มท.-ตำรวจ ยกระดับควบคุมอาวุธปืน 12 ต.ค.นี้ เตรียมเรียกอาวุธคืนจากจนท.พฤติกรรมก้าวร้าว

          หลังการหารือร่วมกับปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงมหาดไทยจะดำเนินนโยบายร่วมกันในการตรวจสอบ ควบคุมอาวุธปืนอย่างมีประสิทธิภาพ โดย 1 ในมาตรการ คือเรียกคืนอาวุธปืน จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปกครอง รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐต่าง ๆ ที่มีอาวุธปืนทางราชการไว้ในความครอบครอง หรือเคยได้ใบรับอนุญาตให้มีอาวุธปืน แต่พบมีพฤติกรรมก้าวร้าว, ถูกร้องเรียนเรื่องอาวุธปืน หรือเกษียณอายุราชการไปแล้วแต่มีพฤติกรรมการใช้อาวุธปืนที่ไม่เหมาะสม, ซึ่งเข้าข่ายขาดคุณสมบัติในการครอบครองอาวุธปืน ก็จะต้องเรียกคืนทั้งหมด เพื่อเป็นการตัดตอนไม่ให้นำอาวุธปืน ที่มีอยู่กับตัว ไปก่อเหตุซ้ำรอยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู อีกทั้งการขอใบอนุญาตมีอาวุธปืน ต่อไปจะต้องมีเอกสารรับรองการตรวจสุขภาพจิตจากแพทย์ มาประกอบการพิจารณาออกใบอนุญาต และมีการตรวจติดตามในระยาวอย่างต่อเนื่อง

          นอกจากนั้น ในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะได้เรียกประชุมตำรวจกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อยกระดับการควบคุมป้องกันอาวุธปืนอย่างเป็นระบบ และการปราบปรามยาเสพติดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะมีการหารือเพื่อออกมาตรการร่วมกันดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมอีกครั้ง

          ส่วนกรณี 2 นักข่าว CNN​ เข้าไปรายงานข่าวสถานที่เกิดเหตุกราดยิง จ.หนองบัวลำภู ล่าสุด ถูกเพิกถอนวีซ่าเข้าราชอาณาจักรและถูกพนักงานสอบสวนปรับเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท  ผบ.ตร. เปิดเผยว่า นักข่าวทั้งสองคนก็ให้ความร่วมมือในการสอบสวนเป็นอย่างดี โดยไม่ได้ถูกดำเนินคดีอาญา เนื่องจากไม่มีเจตนาเข้าไปบุกรุกทำลายพยานหลักฐานสถานที่เกิดเหตุ และเข้าไปในวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งไม่มีศพหรือพยานหลักฐานอื่นใดในสถานที่แล้ว อีกทั้งไม่ขึ้นบัญชีดำ หรือแบล็กลิสต์ แก่นักข่าวทั้งสอง จึงทำให้นักข่าวทั้งสองยังคงสามารถเดินทางกลับมาที่ประเทศไทยได้ เพียงแต่ต้องทำเรื่องขอวีซ่าให้ถูกประเภทเท่านั้นอีกทั้งได้สำนึกผิดว่าภาพที่เผยแพร่ไปทำให้คนไทยเกิดความไม่สบายใจ ซึ่งก็ได้ขอโทษแล้ว แต่อย่างไรจากเหตุการณ์ดังกล่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเอาเป็นบทเรียนว่าต่อไปถ้ามีการฝ่าฝืนหรือเอาแนวกั้นของตำรวจ หรือ Police Line ออก ก็จะมีความผิดได้ซึ่งจะต้องคุยกันให้ชัดเจนกว่านี้

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่สืบสวน สตม. คุมตัวทีมข่าว CNN จากห้องกักสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองซอยสวนพลู เดินทางไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อขึ้นเครื่องบินสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG 638 สุวรรณภูมิ-ฮ่องกง ซึ่งมีกำหนดออกเดินทางเวลา 13.55 น.ตามเวลาในประเทศไทย

#ควบคุมอาวุธปืน