ภาคประชาชนเสนออย่ายุบกสม.สมัชชาพลเมืองต้องปลอดการเมือง

หลังการแบ่งกลุ่มย่อย ในการหาข้อเสนอของประชาชน เกี่ยวกับบทบัญญัติต่างๆในการร่างรัฐธรรมนูญ ภายในงานการสัมมนา "สานพลังเครือข่าย ภาคประชาสังคมในการมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญ" ของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และคณะอนุกรรมาธิการการมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน

น.ส.ออมมาศ รัถยานันต์ ตัวแทนกลุ่มที่เสนอด้าน การกระจายอำนาจ ,และการบริการท้องถิ่น ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเรื่องการยุบรวมสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน หรือ กสม. และผู้ตรวจการแผ่นดิน รวมถึงเสนอควรให้มีการทำประชามติในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยเฉพาะประเด็นที่มีการถกเถียงกันในสังคม และหากจะมีการกระจายอำนาจลงไปสู่ท้องถิ่นควรมีการกระจายอำนาจให้เท่าเทียมกัน ทั้ง เรื่อง กำลังคน ,งาน ,และงบประมาณ เพื่อให้มีความสมดุลกัน

ด้านน.ส.ณัฐกานุต์ กิจประสงค์ ตัวแทนกลุ่มที่เสนอด้านการมีส่วนร่วม กล่าวว่า การตั้งสมัชชาพลเมืองของประชาชนควรมีกฎหมายรองรับ และควรมีบทบาทในการตรวจสอบ รวมถึงควรให้มีสมัชชาพลเมืองเกิดขึ้นในทุกพื้นที่ โดยสมาชิกก็จะต้องมาจากคนในพื้นที่ เพื่อปลอดจากการครอบนำจากนักการเมืองทุกระดับ

ขณะที่นายโสภณ หนูรัตน์ ตัวแทนกลุ่มเสนอแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ระบุว่า ด้านทรัพยากรควรมีการกำหนดจัดสรรให้มีความชัดเจน และควรกระจายการถือครองที่ดินให้ประชาชนอย่างเป็นธรรม ส่วนด้านสาธารณสุขก็อยากให้มีตัวแทนภาคประชาชนจำนวน 1ใน 3 เข้าไปอยู่ในหน่วงานทางด้านสาธารณสุขต่างๆ และควรมีกองทุนในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากการตั้งโรงงานในแต่ละพื้นที่อุตสาหกรรม

ด้านนายแพทย์ชูชัย ศุภวงศ์ รองประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวภายหลังจากรับมอบหนังสือข้อเสนอที่ได้จากภาคประชาชนว่า ข้อเสนอบางข้อที่มีการเสนอมา ก็ได้รับการดำเนินการพิจารณาจากกรรมาธิการยกร่างฯแล้ว ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ เรื่องสิทธิเสรีภาพ ,และการมีส่วนร่วม มีความก้าวหน้ามากที่สุด มากกว่ารัฐธรรมนูญในก่อนหน้านี้ ปี40 และปี50 ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิเสรีภาพ และภาคพลเมือง

วิรวินท์