ถอนวีซ่านักข่าว CNN บุกรุกที่เกิดเหตุ หนองบัวลำภู ต้นสังกัดออกแถลงการณ์ขอโทษคนไทย

09 ตุลาคม 2565, 18:10น.


          กรณีที่มีผู้สื่อข่าวและช่างภาพซีเอ็นเอ็นบุกรุกเข้าไปรายงานข่าวภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอุทัยสวรรค์ จังหวัดหนองบัวลำภู หลังเกิดเหตุกราดยิง เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 ซึ่งทำให้มีการตั้งคำถาม และมีการวิพากษ์วิจารณ์ ว่าเหตุใดจึงเข้าไปในที่เกิดเหตุได้ สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (เอฟซีซีที) ออกแถลงการณ์ “แสดงความวิตกกังวล” ต่อการรายงานข่าวภายในจุดเกิดเหตุหลักของโศกนาฏกรรม



          ก่อนหน้านี้ซีเอ็นเอ็น ได้ทวีตข้อความชี้แจงโดยมีใจความว่า "ทีมงานเข้าไปถ่ายทำในศูนย์เด็กเล็กที่หนองบัวลำภูพร้อมกับสื่ออื่นๆ ในช่วงเวลาที่มีการนำแถบปิดกั้นของเจ้าหน้าที่ออกแล้ว ซึ่งขณะที่ถ่ายทำเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่อยู่ในอาคารได้พูดคุยกับทีมงาน และอนุญาตให้เข้าไปถ่ายทำได้ จึงเก็บภาพภายในใช้เวลาประมาณ 15 นาที และเมื่อกลับออกมาก็พบว่ามีการนำแถบมาปิดล้อม ทำให้ทีมงานต้องปีนออกมา”





          และในวันนี้ (9 ต.ค.) ซีเอ็นเอ็น อินเตอร์เนชั่นแนล เผยแพร่แถลงการณ์ฉบับใหม่ ของนายไมค์ แมคคาร์ธีย์ รองประธานฝ่ายบริหารและผู้จัดการทั่วไปของสถานี ซึ่งยืนยันว่า ทีมงานประสานงานตามขั้นตอนกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ และหากรับทราบตั้งแต่ต้นว่า เจ้าหน้าที่ทั้งสามคนไม่มีอำนาจอนุญาต จะไม่มีการเข้าไปภายในศูนย์อย่างเด็ดขาด นายแมคคาร์ธีย์ ยืนยันว่า ซีเอ็นเอ็นมีเจตนาบริสุทธิ์ในการนำเสนอข่าวสาร ซึ่งในขณะนี้ทางสถานีถอดรายงานออกจากทุกช่องทางนำเสนอแล้ว และมีความเสียใจอย่างสูงสุดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขออภัยต่อตำรวจไทยด้วย



          ในส่วนของการดำเนินคดี ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็น พล.ต.ต.พงพิพัฒน์ ศิริพรวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู ประสานให้ นายดนัยโชค บุญโสม นายก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู แจ้งความดำเนินคดีทั้ง 2 คน เกี่ยวกับการบุกรุกสถานที่ราชการ และการเข้าไปในสถานที่มีวัตถุพยานหลักฐาน และมีการควบคุมตัวในเช้าวันนี้



          พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับ MS.ANNA MARGUERITE COREN อายุ 47 ปี สัญชาติออสเตรเลีย และ MR.DANIEL JOHN HODGE อายุ 34 ปี สัญชาติบริติช ที่บุกรุกเข้าไปรายงานข่าวภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอุทัยสวรรค์แล้ว ทั้ง 2 คน เดินทางเข้ามายังประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 โดยเดินทางมาจากฮ่องกง เพื่อรายงานข่าว “คนร้ายกราดยิง” โดยใช้วีซ่า ผผ.30 ประเภทวีซ่านักท่องเที่ยว และพักอยู่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เจ้าหน้าที่พบตัวช่วง 08.00 น.ของวันนี้ ซึ่งทั้ง 2 คนตั้งใจว่าจะกลับไปรายงานข่าวในพื้นที่



          อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทั้ง 2 คนเดินทางเข้าประเทศไทยด้วยวีซ่าท่องเที่ยว ซึ่งตามหลักการคือต้องมาเที่ยว ไม่ใช่เข้ามาทำงาน จึงตกเป็นผู้ต้องหา และได้เพิกถอนวีซ่าเป็นที่เรียบร้อย เบื้องต้นเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 มีอัตราโทษปรับ 5,000-10,000 บาท หลังจากนี้จะมีการสอบปากคำอย่างละเอียด ว่าผู้ต้องหาทำผิดในเรื่องบุกรุกหรือไม่ เป็นการเข้าไปโดยเจตนาหรือไม่ เบื้องต้นให้การว่า ขณะนั้นยังไม่ได้กั้นเส้น แต่มีชาวบ้านอยู่ จึงเข้าไปดูเหมือนที่คนอื่นเข้าไป พอออกมามีการกั้นเส้นแล้ว จึงต้องปีนออกมา ทั้งอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ อสม.หรือ พยาบาล เป็นคนบอกให้เข้าไปได้ ซึ่งขณะนี้ทราบชื่อเจ้าหน้าที่แล้ว และได้เชิญมาให้ปากคำ



          ทั้งนี้ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกแถลงการณ์ กรณีปรากฏว่ามีผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นไปทำข่าวเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จ.หนองบัวลำภู ขณะที่ทั้งสองผู้สื่อข่าวถือวีซ่านักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยนั้น ถือว่าเป็นการทำหน้าที่อันเป็นความผิดต่อ พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 ของประเทศไทย อย่างชัดเจน และยังไม่รวมถึงการกระทำผิดกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องรวมถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะสิทธิของเด็ก ซึ่งผู้สื่อข่าวในระดับนี้ต้องถือปฏิบัติและทราบโดยชัดแจ้งเป็นอย่างดีอยู่แล้ว



          สภาทนายความฯ เห็นว่าพฤติกรรมการละเมิดกฎหมายของประเทศไทยของผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นเป็นการกระทำผิดกฎหมาย เห็นควรที่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ต้องดำเนินคดีกับผู้สื่อข่าวทั้งสองตามกฎหมายของประเทศไทยโดยเร่งด่วน ก่อนที่บุคคลทั้งสองจะเดินทางออกจากประเทศไทย



          และในภายหลังการสอบปากคำเสร็จสิ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีทั้ง 2 คนในข้อหา ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดตามพระราชบัญญัติการบริหารจัดการการทำงานของบุคคลต่างด้าว เปรียบเทียบปรับเป็นเงินคนละ 5,000 บาท แล้วปล่อยตัวไป ส่วนเรื่องการบุกรุกนั้นพบว่าทั้งสองคนไม่ได้มีเจตนา ซึ่งทั้ง 2 คนได้กล่าวขอโทษคนไทยจากเหตุการณ์ และยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะมาสร้างความยุ่งยาก ในช่วงเวลาที่กำลังโศกเศร้าเช่นนี้



….



#หนองบัวลำภู



#สื่อCNN



แถลงการณ์ของ FCCT





 

ข่าวทั้งหมด

X