บริษัทมอร์แกน สแตนลีย์ ผู้ให้บริการทางการเงินของสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า บริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในตลาดโลกในช่วงไตรมาสที่หนึ่งของปี 2566 มาอยู่ที่ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากเดิม 95 ดอลลาร์ คาดว่า ปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกจะเริ่มตึงตัวในปีหน้า เป็นผลพวงจากกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+)ที่ประกอบด้วยสมาชิกผู้ผลิตนำมันของกลุ่มโอเปกและพันธมิตร รวมถึงรัสเซีย ตกลงในการประชุมในกรุงเวียนนา ออสเตรียเมื่อวาน ให้ลดกำลังการผลิตมากถึง 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ และมาตรการของกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ห้ามสมาชิกอียูนำเข้าน้ำมันดิบรัสเซีย จะทำให้ปริมาณน้ำมันดิบเข้าสู่ตลาดโลกน้อยลง
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในตลาดกรุงลอนดอน อังกฤษอยู่ที่ 93.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเวลา 06.56 น.ของวันนี้ หลังปรับขึ้นร้อยละ 1.7 เมื่อวาน
บริษัทมอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่า ตลาดน้ำมันโลกจะเริ่มตึงตัวในปีหน้า ขาดแคลนน้ำมันดิบเฉลี่ย 900,000 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มจากคาดการณ์เดิมคือ ขาดแคลนน้ำมันดิบราว 200,000 บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้การคาดการณ์เดิมของมอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่า การผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียจะลดลง 1-1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังมาตรการคว่ำบาตรของกลุ่มอียูห้ามสมาชิกนำเข้าน้ำมันดิบรัสเซียเริ่มมีผลบังคับในวันที่ 5 ธันวาคมนี้
#โอเปกพลัส
#คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ